สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
General Audience/การเข้าเฝ้าแบบทั่วไป
ณ หอประชุมใหญ่เปาโลที่หก นครรัฐวาติกัน
เมื่อวันพุธที่ 22 พฤษภาคม 2024


Cycle of Catechesis. Vices and Virtues. 21. Humility
คำสอน : คุณธรรมและพยศชั่ว (21) ความสุภาพถ่อมตน
เจริญพรมายังพี่น้องที่รัก อรุณสวัสดิ์
วันนี้เราจะจบการเรียนคำสอนต่อเนื่อง[เรื่องคุณธรรมและพยศชั่วประการต่าง ๆ] ด้วยการพิจารณาคุณธรรมประการหนึ่ง ที่ถึงแม้จะไม่ได้รวมอยู่ในคุณธรรมหลักและคุณธรรมทางเทววิทยาทั้งเจ็ด แต่ก็เป็นพื้นฐานของชีวิตคริสตชน คุณธรรมข้อนี้คือความถ่อมตน ซึ่งตรงกันข้ามกับความโอหังซึ่งเป็นบาปร้ายแรงที่สุด ขณะที่ความอวดดีถือดีและความโอหังทำให้หัวใจมนุษย์บวมพอง ทำให้เราดูเหมือนเป็นอะไรบางอย่างมากกว่าที่เป็นจริง แต่ความสุภาพถ่อมตนจะช่วยฟื้นฟูทุกสิ่งทุกอย่างให้กลับสู่มิติที่ถูกที่ควร กล่าวคือ การที่เราทั้งหลายเป็นสิ่งสร้างที่มหัศจรรย์ แต่ก็ไม่ได้ปราศจากข้อจำกัด และมีทั้งข้อดีข้อด้อย พระคัมภีร์ได้เตือนใจเราทั้งหลายตั้งแต่แรกเริ่มว่า เราเป็นเพียงฝุ่นดิน และจะต้องกลับไปสู่ฝุ่นดิน (เทียบ ปฐก. 3,19) จริงทีเดียวว่า คำว่า “สุภาพถ่อมตน” [หรือภาษาละตินว่า humilis] มีรากศัพท์มาจากคำว่า humus คือ ดิน อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งที่ในจิตใจมนุษย์เกิดความมัวเมาอย่างหนึ่งขึ้น คือ การหลงคิดว่าตนเองทำได้ทุกอย่าง นี่เป็นสิ่งที่อันตรายเหลือเกิน และยังทำร้ายพวกเราอย่างมาก
การปลดปล่อยตนเองจากความโอหังนั้นทำได้ไม่ยาก กล่าวคือ เพียงแค่เรารำพึงถึงท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว เราก็จะสามารถฟื้นฟู[จิตใจตนเอง]ให้กลับสู่[มุมมองที่]ถูกต้องสมควรได้ ดังที่เพลงสดุดีได้กล่าวไว้ว่า “เมื่อข้าพเจ้าแหงนมองท้องฟ้า ซึ่งนิ้วพระหัตถ์บรรจงสร้างไว้ มองดูเดือนดูดาวที่พระองค์ทรงประดับไว้อย่างมั่นคง มนุษย์เป็นใคร พระองค์จึงทรงระลึกถึงเขา บุตรแห่งมนุษย์เป็นใคร พระองค์จึงต้องทรงเอาพระทัยใส่” (สดด. 8,3-4) วิทยาศาสตร์สมัยใหม่ทำให้เรามีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลยิ่งขึ้นมากมาย และทำให้เรารู้สึกได้มากขึ้นอีกถึงความลึกลับซึ่งอยู่รอบตัวเราและเป็นที่ที่เรากำลังมีตัวตนอยู่
ผู้ใดที่มีมุมมองเช่นนี้และรู้สึกได้ในใจตนเองว่าตนเองช่างเล็กน้อยต่ำต้อย ผู้นั้นย่อมเป็นสุข เพราะเขาจะได้รับการป้องกันคุ้มครองให้พ้นจากความโอหังซึ่งเป็นพยศชั่วอันน่าเกลียด เมื่อครั้งที่พระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงบุญลาภ[แปดประการ] พระองค์ได้ทรงเริ่มต้นเช่นนี้ว่า “ผู้มีใจยากจนย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์เป็นของเขา” (มธ. 5,3) นี่คือบุญลาภประการแรก เหตุว่าสิ่งนี้เป็นรากฐานของบุญลาภประการอื่น ๆ ที่จะตามมา จริงทีเดียวว่า ความสุภาพอ่อนโยน ความเมตตากรุณา และจิตใจที่บริสุทธิ์ ล้วนแตกหน่อมาจากความรู้สึกถึงความเล็กน้อยต่ำต้อยภายในเช่นนี้เอง ความสุภาพถ่อมตนเป็นประตูสู่คุณธรรมประการต่าง ๆ ทั้งปวง
เราจะเห็นได้จากในข้อความช่วงแรกของพระวรสารว่า ความสุภาพถ่อมตนและความมีใจยากจนเป็นแหล่งที่มาของทุกสิ่งทุกอย่าง การแจ้งสารของทูตสวรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นที่ประตูเมืองเยรูซาเล็ม หากแต่เกิดขึ้นที่หมู่บ้านห่างไกลในกาลิลี ซึ่งเป็นสถานที่ที่ดูไม่สำคัญ จนถึงขนาดที่ผู้คนกล่าวกันว่า “จะมีอะไรดีมาจากนาซาเร็ธได้หรือ” (ยน. 1,46) หากแต่สถานที่นี้เองที่เป็น[จุดเริ่มต้นของ]การที่โลกได้เกิดใหม่ สตรีที่ได้รับการเลือกสรรไม่ได้เป็นเจ้าหญิงน้อย ๆ ที่ถูกเลี้ยงดูอย่างประคบประหงม หากแต่เป็นพระนางมารีย์ ซึ่งไม่ได้เด่นดังเป็นที่รู้จักมาก่อน ท่านเป็นบุคคลแรกที่ได้รับความอัศจรรย์ใจจากการที่ทูตสวรรค์นำสารจากพระเจ้ามาประกาศ ความอัศจรรย์ใจนี้ปรากฏเห็นได้อย่างโดดเด่นภายในบทเพลงแห่งการภาวนาของท่านที่ว่า “วิญญาณข้าพเจ้าประกาศความยิ่งใหญ่ขององค์พระผู้เป็นเจ้า จิตใจของข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในพระเจ้า พระผู้ทรงกอบกู้ข้าพเจ้า เพราะพระองค์ทอดพระเนตรผู้รับใช้ต่ำต้อยของพระองค์” (ลก. 1,46-48) กล่าวได้ว่าความเล็กน้อยต่ำต้อยของพระแม่มารีย์ ซึ่งเหนือสิ่งอื่นใดเป็นความเล็กน้อยต่ำต้อยภายในจิตใจ ได้เป็นสิ่งที่ดึงดูดพระเจ้า และเมื่อใดก็ตามที่เราทั้งหลายยอมรับความเล็กน้อยต่ำต้อยแบบนี้ เราทั้งหลายก็ย่อมจะเป็นที่น่าดึงดูดของพระเจ้าด้วย[ในทำนองเดียวกัน]
ในเวลาต่อมา แม่พระได้ระมัดระวังที่จะไม่ให้ตนเองเป็นศูนย์กลาง การตัดสินใจแรกหลังจากที่ท่านได้รับสารจากทูตสวรรค์ คือการออกเดินทางและช่วยเหลือผู้อื่น ท่านได้ออกเดินทางมุ่งสู่แถบภูเขาแคว้นยูเดียเพื่อไปรับใช้[นักบุญเอลีซาเบธ]ผู้เป็นญาติของท่านซึ่งกำลังตั้งครรภ์แก่ การที่ท่านทำแบบนี้ได้มีใครมารู้เห็นบ้างหรือไม่ ไม่มีเลย มีแต่พระเจ้าเพียงองค์เดียว ดูเหมือนว่าแม่พระไม่ได้มีความปรารถนาที่จะออกจากชีวิตอันซ่อนเร้นเช่นนี้ โดยเมื่อครั้งที่พระเยซูเจ้าทรงได้ยินหญิงผู้หนึ่งตะโกนออกมาจากฝูงชนว่า “หญิงที่ให้กำเนิดและให้นมเลี้ยงท่านช่างเป็นสุขจริง” (ลก. 11,27) ซึ่งเป็นคำพูดที่ประกาศว่าแม่พระเป็นผู้ที่ได้รับพระพร พระเยซูเจ้าได้ตรัสตอบในทันทีว่า “คนทั้งหลายที่ฟังพระวาจาของพระเจ้าและปฏิบัติตามย่อมเป็นสุขกว่านั้นอีก” [เราจะเห็นได้ว่า] แม้แต่การที่แม่พระเป็นพระมารดาพระเจ้า ซึ่งเป็นความจริงอันศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในชีวิตของแม่พระ ก็ยังไม่ได้ทำให้แม่พระอวดตนต่อหน้าคนอื่น ๆ และถึงแม้ว่าโลกของเราจะแสวงหารูปลักษณ์ภายนอก ถึงแม้ว่าผู้คนต่างพยายามที่จะแสดงว่าตนเองเหนือกว่าผู้อื่น แต่แม่พระก็ได้ก้าวเดินอย่างเด็ดเดี่ยวไปในทิศทางตรงข้าม โดยอาศัยพลานุภาพแห่งพระหรรษทานของพระเจ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
พวกเราสามารถจินตนาการได้ว่า แม่พระก็มีช่วงเวลาที่ยากลำบาก มีช่วงเวลาที่ท่านต้องเดินหน้าด้วยความเชื่อไปในท่ามกลางความมืดเช่นกัน แต่สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้ความสุภาพถ่อมตนของท่านสั่นคลอนไปแต่อย่างใดเลย ความสุภาพถ่อมตนเป็นคุณธรรมอันหนักแน่นแข็งแกร่งภายในตัวท่าน พ่ออยากจะเน้นว่า ความสุภาพถ่อมตนเป็นคุณธรรมที่หนักแน่นแข็งแกร่งเหมือนศิลา ให้เราคิดถึงแม่พระ ท่านทำตนเล็กน้อยในทุกเวลา ท่านไม่เคยเน้นความสำคัญของตนเอง ท่านเป็นอิสระจากความทะเยอทะยานเสมอ ความเล็กน้อยต่ำต้อยอันนี้ของท่านเป็นพลังที่ไม่มีสิ่งใดเอาชนะได้ ถึงแม้ว่าภาพลวงแห่งพระเมสสิยาห์ผู้มีชัยจะถูกบดขยี้[ภายในพระมหาทรมานของพระเยซูเจ้า] แต่ท่านคงอยู่ที่เชิงไม้กางเขน ไม่จากไปไหน และถึงแม้ว่าบรรดาศิษย์จะไม่สามารถตื่นเฝ้าอยู่กับพระเยซูเจ้าได้แม้เพียงชั่วโมงเดียว และต่อมาก็ได้ละทิ้งพระองค์ไปเมื่อพายุโหมเข้ามา แต่แม่พระผู้นี้เองที่จะได้รวบรวมบรรดาศิษย์[เป็นหนึ่งเดียว]ในช่วงเวลาเตรียมรับเสด็จพระจิตเจ้า
พี่น้องที่รัก ความสุภาพถ่อมตนเป็นทุกสิ่งทุกอย่าง และจะเป็นสิ่งที่ช่วยเราให้รอดพ้นจากปีศาจ รวมทั้งจากอันตรายแห่งการกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกับมัน นอกจากนี้ ความสุภาพถ่อมตนยังเป็นที่มาแห่งสันติสุขด้วย ทั้งในโลก และในพระศาสนจักร หากว่าที่ใดไม่มีความสุภาพถ่อมตน ที่นั้นก็ย่อมมีสงคราม มีความขัดแย้ง มีความแตกแยก พระเจ้าได้ทรงให้พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีย์เป็นแบบอย่างของเราทั้งหลาย เพื่อที่เราจะได้รับความรอดและมีความสุข ซึ่งหนทางสู่ความรอดนั้นก็คือความสุภาพถ่อมตนอันนี้เอง พ่อขอขอบใจทุกคน
พระดำรัสทักทายพิเศษของสมเด็จพระสันตะปาปา
พ่อขอต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนที่พูดภาษาอังกฤษซึ่งได้มาหาพ่อในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มจากแอฟริกาใต้ ฮ่องกง อินเดีย เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกา พ่อขอให้ลูกทุกคนตลอดจนครอบครัวของลูกได้รับความปีติยินดีและสันติสุขของพระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลาย ขอให้พระเจ้าโปรดประทานพรแก่ลูกทุกคน
ท้ายสุด พ่อขอส่งความคำนึงถึงบรรดาคนป่วย คนชรา คนที่เพิ่งแต่งงาน และบรรดาเยาวชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนนักศึกษาจากฟรัตตามัจโจเร และจากอังกรี การสมโภชพระจิตเจ้าเมื่อไม่นานนี้เป็นโอกาสที่เราทั้งหลายได้ระลึกถึงการประทับอยู่ของพระองค์ภายในพระศาสนจักร ขอให้พระจิตเจ้าสถิตอยู่ในจิตใจของลูกทุกคนเสมอ และขอให้พระจิตเจ้าโปรดช่วยเหลือลูก ให้ลูกมีความเชื่อที่แข็งแกร่งมั่นคง มีความเมตตากรุณาด้วยใจกว้าง และมีความหวังที่นำไปสู่การเพียรทนไม่ย่อท้อ
ขอให้พวกเราอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกเราทุกคน ขอให้เราอย่าลืมยูเครนที่กำลังทนทุกข์ทรมานอย่างมากมาย ขอให้เราอย่าลืมปาเลสไตน์ อิสราเอล ขอให้สงครามครั้งนี้จงยุติลง ขอให้เราอย่าลืมเมียนมา ตลอดจนประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่กำลังมีสงคราม พี่น้องที่รัก เราทั้งหลายต้องอธิษฐานภาวนาเพื่อสันติภาพในช่วงเวลานี้ที่กำลังมีสงครามในที่ต่าง ๆ ทั่วโลก
ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานพรแก่ลูกทุกคน ขอให้แม่พระคุ้มครองลูกทุกคน และพ่อขอให้ลูกทุกคนอย่าลืมอธิษฐานภาวนาเพื่อพ่อด้วย ขอขอบใจ
ใจความสรุปพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปา
บัดนี้เราทั้งหลายจะจบการเรียนคำสอนต่อเนื่องเรื่องคุณธรรมประการต่าง ๆ ด้วยการรำพึงไตร่ตรองเกี่ยวกับคุณธรรมแห่งความสุภาพถ่อมตน ซึ่งทำให้เรารับรู้และยอมรับว่าเราเป็นสิ่งสร้างของพระเจ้า และทำให้เราพยายามที่จะใช้ชีวิตตามนั้น ที่จริงแล้วความสุภาพถ่อมตนเป็นประตูสู่คุณธรรมประการอื่น ๆ ทั้งหมด ทั้งยังเป็นบุญลาภประการแรกควบคู่กับความมีใจยากจน เราทั้งหลายย่อมเห็นได้ว่าชีวิตของพระแม่มารีย์เป็นแบบอย่างอันพิเศษแห่งความสุภาพถ่อมตน ซึ่งไม่เพียงแต่แสดงออกภายในการที่ท่านน้อมรับพระประสงค์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยความปีติยินดีเท่านั้น แต่ยังปรากฏอยู่ทั้งภายในกิจเมตตาที่ท่านได้กระทำต่อนักบุญเอลีซาเบธผู้เป็นญาติของท่าน ทั้งภายในความเพียรทนที่ท่านได้แสดงออก ณ เชิงไม้กางเขน ตลอดจนภายในการที่ท่านอธิษฐานภาวนาท่ามกลางบรรดาอัครสาวกในห้องชั้นบนขณะที่ทุกคนกำลังเฝ้ารอการหลั่งมาของพระจิตเจ้าด้วย ขอให้แบบอย่างและการเสนอวิงวอนที่เปี่ยมด้วยพลานุภาพของแม่พระ จงช่วยให้เราทั้งหลายเอาชนะการผจญแห่งความอวดดีถือดี เพื่อที่เราทั้งหลายจะได้ก้าวเดินตามพระเยซูเจ้าด้วยความสุภาพถ่อมตน และเป็นพยานถึงความปีติยินดีและสันติสุขแห่งพระอาณาจักรของพระองค์
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร
เก็บการสอนคำสอน General audience มาแบ่งปันและเพื่อการไตร่ตรอง)