
เจริญพรมายังพี่น้องทั้งหลาย สุขสันต์วันพระเจ้า
พระวรสารในวันนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับความหมายของชีวิตบุคคลแต่ละคน เป็นการอุปมาเรื่องหญิงสาว 10 คนที่ถูกเรียกให้ออกไปพบเจ้าบ่าว (เทียบ มธ. 25,1-13) การมีชีวิต คือการเตรียมพร้อมสำหรับวันที่เราทั้งหลายจะถูกเรียกให้ไปหาพระเยซูเจ้า อย่างไรก็ตาม ในการอุปมาเรื่องหญิงสาว 10 คนนี้ ห้าคนเป็นคนฉลาด ส่วนอีกห้าคนเป็นคนโง่ ให้เราพิจารณากันว่าอะไรคือปรีชาญาณ อะไรคือความโง่เขลา อะไรคือปรีชาญาณในชีวิต อะไรคือความโง่เขลาในชีวิต
หญิงสาวเหล่านี้ซึ่งล้วนเป็นเพื่อนเจ้าสาว ต่างไปอยู่ที่นั่นเพื่อรอต้อนรับเจ้าบ่าว พวกเธอล้วนอยากจะพบเจ้าบ่าว เหมือนกับที่เราแต่ละคนอยากให้ชีวิตของเราได้ไปถึงจุดหมายที่มีความสุข เพราะฉะนั้น ความแตกต่างระหว่างปรีชาญาณกับความโง่เขลาจึงไม่ได้อยู่ที่ความตั้งใจ [เพราะทั้งคนฉลาดและคนโง่ล้วนมีความตั้งใจที่ดี] นอกจากนี้ยังไม่ได้อยู่ที่ความตรงต่อเวลาในการไปถึงสถานที่ที่จะได้พบ เพราะพวกเธอทุกคนต่างก็ไปรออยู่ที่นั่นแล้ว ความแตกต่างระหว่างคนโง่กับคนฉลาดเป็นอีกอย่างหนึ่ง คือเรื่องการเตรียมตัว ข้อความ[ในพระคัมภีร์]กล่าวไว้ว่า หญิงฉลาด “นำน้ำมันใส่ขวดไปพร้อมกับตะเกียง” (มธ. 25,4) แต่หญิงโง่ไม่ได้ทำเช่นนั้น นี่คือความแตกต่าง อยู่ที่น้ำมันนี่เอง แล้วอะไรเป็นลักษณะเฉพาะของน้ำมัน น้ำมันไม่สามารถมองเห็นได้เพราะว่าอยู่ในตะเกียง น้ำมันไม่ได้มองเห็นเด่นชัด แต่หากไม่มีน้ำมัน ตะเกียงก็ย่อมจะไม่มีแสงไฟ
ให้เราพิจารณาตัวเอง เราจะเห็นว่ามีความเสี่ยงแบบเดียวกันในชีวิตของเราด้วย หลายครั้งที่เราทั้งหลายใส่ใจเรื่องที่ว่าคนอื่นจะมองเราอย่างไร เราอาจคิดว่าสิ่งสำคัญคือการรักษาภาพลักษณ์ของตัวเอง ให้เราดูดีต่อหน้าคนอื่น แต่พระเยซูเจ้าตรัสว่าปรีชาญาณในชีวิตไม่ได้อยู่ตรงนั้น หากแต่อยู่ที่การใส่ใจกับสิ่งที่มองไม่เห็น แต่เป็นสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่า กล่าวคือ การใส่ใจดูแลหัวใจ[ของแต่ละคน] การทะนุบำรุงชีวิตภายใน สิ่งนี้หมายถึงการรู้จักหยุดการกระทำอย่างอื่น และให้หันมารับฟังหัวใจของตนเอง หันมาเฝ้าระวังความคิดและความรู้สึกของตนเอง บ่อยครั้งเหลือเกินที่เราทั้งหลายละเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในใจของเราในแต่ละวัน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในตัวเรา ปรีชาญาณหมายถึงการรู้จักเว้นที่ว่างให้แก่ความเงียบ เพื่อที่จะสามารถรับฟังตนเอง และรับฟังคนอื่นได้ หมายถึงการรู้จักสละเวลาที่เราใช้ดูหน้าจอโทรศัพท์ เพื่อหันมามองแววตาของผู้อื่น หันมามองจิตใจตัวเอง ภายในสายพระเนตรของพระเจ้าที่มองมายังเรา ปรีชาญาณหมายถึงการไม่ตกไปสู่กับดักของความคิดที่ว่าเราต้องทำโน่นทำนี่ตลอดเวลา แต่ให้เราอุทิศเวลาให้แก่องค์พระผู้เป็นเจ้า ให้แก่การรับฟังพระวาจาของพระองค์
พระวรสารได้มอบคำแนะนำที่ถูกต้อง ไม่ให้เราละเลยน้ำมันแห่งชีวิตภายใน กล่าวคือ “น้ำมันแห่งจิตวิญญาณ” พระวรสารบอกกับเราว่าการเตรียมน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญ และในเรื่องนี้ เราได้เห็นว่าอันที่จริงหญิงสาวทุกคนต่างมีตะเกียงเป็นของตนเองอยู่แล้ว แต่ว่าพวกเธอยังต้องเตรียมน้ำมัน พวกเธอต้องไปซื้อน้ำมันจากคนขาย และเอาน้ำมันมาเติมไว้ในตะเกียง (เทียบ มธ. 25,7-9) พวกเราก็เช่นกัน ชีวิตภายในไม่ใช่สิ่งที่สามารถสร้างขึ้นได้โดยปราศจากการตระเตรียม ไม่ใช่สิ่งที่ทำได้โดยทันที หรือทำกันนาน ๆ ครั้งก็พอ และไม่ใช่สิ่งที่เมื่อทำเสร็จทีเดียวก็ใช้ได้ไปตลอด เราทั้งหลายจำเป็นต้องอุทิศเวลาเล็กน้อยในแต่ละวันเพื่อตระเตรียมชีวิตภายในด้วยความสม่ำเสมอคงเส้นคงวา เช่นเดียวกับที่เราทำดังนี้กับทุก ๆ เรื่องที่สำคัญ
ดังนี้แล้ว เราทั้งหลายย่อมสามารถถามตัวเองได้ว่า ในชีวิตของเราตอนนี้ เรากำลังเตรียมตัวอย่างไรกันบ้าง เรากำลังเตรียมอะไรภายในเรา บางทีเราอาจจะกำลังคิดพยายามเก็บออมเงินทอง หรืออาจกำลังคิดจะซื้อบ้านหลังใหม่ ซื้อรถคันใหม่ คิดแผนการอย่างเป็นรูปธรรมที่จะทำโน่นทำนี่ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องดี ไม่ใช่เรื่องไม่ดี สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องดี แต่ให้เราถามตัวเองว่า เรากำลังคิดอุทิศเวลาให้แก่การดูแลรักษาจิตใจด้วยหรือไม่ เรากำลังคิดอุทิศเวลาเพื่อการภาวนา เพื่อการรับใช้ผู้อื่น และเพื่อองค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ทรงเป็นจุดหมายปลายทางแห่งชีวิตของเราบ้างหรือไม่ กล่าวโดยสรุปคือ น้ำมันในจิตวิญญาณของเราตอนนี้เป็นอย่างไร ให้เราแต่ละคนถามตัวเองว่า น้ำมันในจิตวิญญาณของเราตอนนี้เป็นอย่างไร เราทะนุถนอมน้ำมันนี้ดีหรือไม่ เราดูแลน้ำมันนี้ดีหรือไม่
ขอให้แม่พระโปรดช่วยเหลือเราทั้งหลาย ให้รู้จักดูแลทะนุถนอมน้ำมันในชีวิตภายในของเราแต่ละคน
หลังการสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระดำรัส ดังนี้
พี่น้องที่รัก ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา มีสงครามกลางเมืองในซูดาน และยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง ทำให้ผู้คนมากมายเสียชีวิต และยังมีคนหลายล้านคนที่ต้องพลัดพรากจากถิ่นที่อยู่ ทั้งที่อยู่ในประเทศ และที่ต้องลี้ภัยไปยังประเทศข้างเคียง นอกจากนี้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมยังคงร้ายแรงอย่างยิ่ง พ่อขอแสดงความใกล้ชิดกับผู้คนชาวซูดานอันเป็นที่รัก ซึ่งตอนนี้กำลังทนทุกข์ทรมาน และพ่อขอร้องด้วยใจจริงต่อบรรดาผู้นำในท้องถิ่น ให้พวกเขาอำนวยความสะดวกให้แก่การมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และให้พวกเขาพยายามหาทางออกโดยสันติวิธี อาศัยความช่วยเหลือจากประชาคมนานาชาติ ให้เราทั้งหลายอย่าลืมพี่น้องที่กำลังประสบความทุกข์ยากลำบาก
เราทั้งหลายยังคงคิดคำนึงในทุก ๆ วันถึงสถานการณ์ร้ายแรงอย่างยิ่งในอิสราเอลและปาเลสไตน์ พ่อขอแสดงความใกล้ชิดต่อทุกคนที่กำลังทุกข์ทรมาน ทั้งชาวปาเลสไตน์และชาวอิสราเอล พ่อขอแสดงความห่วงใยท่ามกลางช่วงเวลาอันมืดมิดตอนนี้ และพ่อกำลังอธิษฐานภาวนาอย่างมากเพื่อพวกเขา ขอให้การใช้อาวุธหยุดลงเสียที การใช้อาวุธไม่อาจนำไปสู่สันติภาพได้ และขออย่าให้ความขัดแย้งขยายวงกว้างไปกว่านี้ พี่น้องทั้งหลาย พอได้แล้ว พอเสียที ที่ฉนวนกาซา ขอให้มีการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บ ขอให้มีการคุ้มครองพลเรือน ขอให้มีการเปิดช่องทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมได้ไปถึงผู้คนที่เดือดร้อนให้มากกว่านี้ ขอให้มีการปล่อยตัวประกัน ซึ่งในคนกลุ่มนั้นมีทั้งคนแก่และเด็กรวมอยู่ด้วย มนุษย์ทุกคน ไม่ว่าเขาจะเป็นชาวคริสต์ ชาวยิว ชาวมุสลิม หรือว่านับถือศาสนาไหน เป็นคนเชื้อชาติใด ล้วนแต่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ มีค่าในสายตาของพระเจ้า และมีสิทธิที่จะใช้ชีวิตอย่างสันติสุข ขอให้เราทั้งหลายจงอย่าสิ้นหวัง ให้เราภาวนาและทำงานอย่างไม่หยุดหย่อน เพื่อที่จิตสำนึกแห่งความเป็นมนุษย์จะได้มีชัยชนะเหนือจิตใจที่แข็งกระด้าง
เป็นเวลา 2 ปีแล้วนับตั้งแต่ที่ได้มีการเริ่มต้นกรอบนโยบายปฏิบัติงาน “เลาดาโต ซี” พ่อขอขอบใจทุกคนที่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในความคิดริเริ่มนี้ และพ่อขอเป็นกำลังใจให้เขาก้าวเดินต่อเนื่องบนหนทางแห่งการกลับใจในเรื่องสิ่งแวดล้อม และในการนี้ ให้เราอธิษฐานภาวนาเพื่อการประชุม COP28 ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งตอนนี้จัดขึ้นที่ดูไบ และกำลังจะเสร็จสิ้นการประชุมแล้ว
ในวันนี้เป็นวันที่พระศาสนจักรในอิตาลีฉลองขอบคุณการเก็บเกี่ยว โดยในปีนี้มีหัวข้อว่า “แนวทางเชิงร่วมมือต่อการพัฒนาเกษตรกรรม”
พ่อขอต้อนรับทุกคนในที่นี้อย่างอบอุ่น ทั้งผู้แสวงบุญจากอิตาลีและจากที่อื่น ๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มคุณพ่อบาทหลวงจากเขตปกครองใหญ่ซเตตชิน-กามีเอน ของโปแลนด์ และกลุ่มชุมชนวัดจากที่ต่าง ๆ ได้แก่ เอาก์สบูร์ก [ในเยอรมนี] ซารา [ในโครเอเชีย] ปอเรตช์ [ในโครเอเชีย] โปลา [ในโครเอเชีย] ปอร์โต [ในโปรตุเกส] และปารีส[ของฝรั่งเศส] พ่อขอทักทายสมาชิกของประชาคมซานเตจีดีโอจากประเทศต่าง ๆ ในเอเชีย และพ่อขอเป็นกำลังใจให้พวกเขาอุทิศตนเพื่อการประกาศพระวรสารและการช่วยเหลือคนอื่น ให้ลูกเดินหน้าต่อไปอย่างกล้าหาญ และให้ลูกช่วยกันสร้างสันติภาพด้วย
พ่อขอทักทายบรรดาสัตบุรุษจากโวลาร์เญ [ในอิตาลี] จากโอซีเอรี [ในอิตาลี] และจากเกรโมนา [ในอิตาลี] พ่อขอทักทายอย่างอบอุ่นต่อผู้แสวงบุญจากยูเครน ทั้งสัตบุรุษและนักพรตบาซีเลียน พ่อเห็นธงยูเครนด้วย วันนี้มีผู้แสวงบุญจากหลายที่ที่ได้มาร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 400 ปีนับตั้งแต่ที่นักบุญโยซาฟัตได้สละชีวิตเป็นมรณสักขี พ่อขอร่วมภาวนากับลูกทุกคนให้เกิดสันติภาพในยูเครนที่กำลังถูกโจมตี พี่น้องที่รัก ให้เราทั้งหลายอย่าลืมยูเครนซึ่งกำลังทุกข์ทรมาน
พ่อขอให้ลูก ๆ ทุกคนมีความสุขในวันอาทิตย์ อย่าลืมภาวนาเผื่อพ่อด้วย รับประทานอาหารกลางวันให้อร่อย แล้วพบกันใหม่
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร เก็บถ้อยคำปราศรัย ANGELUS ของพระสันตะปาปาฟรานซิสมาแบ่งปันและเพื่อการไตร่ตรอง)