บทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาฟรานซิส
เมื่อวันอังคารที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 2023
โดย นักข่าววาเลนตีนา อาลัซรากี จากสถานีโทรทัศน์เม็กซิโก

สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่าพระพลานามัยดีขึ้น และไม่ทรงมีแผนจะสละตำแหน่ง (วาติกันนิวส์)
ในวันฉลองแม่พระแห่งกัวดาลูเป สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ประทานสัมภาษณ์แก่ วาเลนตีนา อาลัซรากี ผู้สื่อข่าวจากสถานีโทรทัศน์ N+ ของเม็กซิโก
โดย ซัลวาโตเร แชร์นูซีโอ (Salvatore Cernuzio)
สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า “พ่ออยากให้เขาฝังศพพ่อที่มหาวิหารซันตามารีอามัจโจเร เขาได้เตรียมสถานที่ไว้พร้อมแล้ว” นี่ไม่ใช่การตัดสินใจครั้งใหญ่ และยิ่งไม่ใช่การปฏิวัติใด ๆ แต่เป็นสิ่งที่พระองค์ทรงสัญญาไว้กับแม่พระ
สมเด็จพระสันตะปาปา ผู้จะทรงเจริญพระชันษา 87 ปีในสัปดาห์หน้า ในวันที่ 17 ธันวาคม ได้เปิดเผยพระประสงค์นี้ภายในการประทานสัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์ N+ พระองค์ตรัสดัวยว่า ขณะนี้พระองค์ทรงทำงานเพื่อให้พิธีปลงพระศพของพระสันตะปาปามีความเรียบง่ายยิ่งขึ้น พระองค์ยังได้ตรัสอย่างชัดเจนด้วยว่า ถึงแม้พระองค์จะทรงครุ่นคิดเกี่ยวกับความตาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะว่าความชรา “เป็นสิ่งที่มาทั้งอย่างนั้น” แต่พระองค์ไม่ทรงมีแผนจะสละตำแหน่งพระสันตะปาปาแต่อย่างใด
ในทางตรงข้าม พระองค์ได้เปิดเผยพระประสงค์ที่จะเสด็จเยือนเบลเยียมในปี ค.ศ. 2024 นอกเหนือจากแผนเสด็จเยือนโปลีนีเซีย และแผนเสด็จเยือนอาร์เจนตินาซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระองค์
ทรงมีพระประสงค์จะให้ฝังพระศพที่มหาวิหารซันตามารีอามัจโจเร
ผู้ที่สัมภาษณ์สมเด็จพระสันตะปาปา คือ วาเลนตีนา อาลัซรากี ผู้สื่อข่าวที่เป็นที่รู้จัก และเป็นผู้ที่ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในวาติกันมานาน การสัมภาษณ์นี้มีขึ้นในวันฉลองแม่พระแห่งกัวดาลูเป ที่เม็กซิโกถือว่าเป็น “มารดา” ของตน ภาพของแม่พระแห่งกัวลาดูเป ผู้ถูกขนานนามว่า “โมเรนีตา” ปรากฏอยู่โดยตลอดการสัมภาษณ์ สิ่งนี้เป็นการเน้นย้ำถึง “ความศรัทธายิ่งใหญ่” ของสมเด็จพระสันตะปาปาที่มีต่อแม่พระ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้พระองค์ทรงเลือกมหาวิหารซันตามารีอามัจโจเรเป็นที่ฝังพระศพของพระองค์
การตัดสินใจเช่นนี้เป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้นมากนักในประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงการที่พระศพของสมเด็จพระสันตะปาปาหลายพระองค์ที่ผ่านมาได้รับการฝังไว้ที่วาติกัน [ในมหาวิหารนักบุญเปโตร] (พระองค์ล่าสุดคือสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ซึ่งสิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2022) อย่างไรก็ตาม การที่สมเด็จพระสันตะปาปาทรงตัดสินพระทัยให้ฝังพระศพของพระองค์ที่มหาวิหารซันตามารีอามัจโจเร ทำให้ความผูกพันที่พระองค์มีต่อมหาวิหารซันตามารีอามัจโจเรยิ่งแข็งแกร่งขึ้น พระองค์เคยเสด็จเยือนมหาวิหารแห่งนี้แล้วกว่า 100 ครั้ง นับตั้งแต่การเสด็จเยือนในวันแรกที่ทรงได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2013 พระองค์ได้เสด็จเยือนมหาวิหารแห่งนี้ทั้งก่อนและหลังการเสด็จเยือนต่างประเทศในทุกครั้ง และครั้งล่าสุด พระองค์ได้เสด็จไปที่นั่นเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม เพื่อทรงเทิดเกียรติแม่พระด้วยการถวาย “ดอกกุหลาบทองคำ” แก่รูปแม่พระผู้เป็น “ความรอดของชาวโรม” (Salus Populi Romani) ธรรมประเพณีกล่าวว่ารูปนี้เขียนโดยนักบุญลูกา และว่ายังเป็นรูปที่เฝ้าปกป้องคุ้มครองผู้คนชาวโรมด้วย
สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า “[การไปเยือนมหาวิหารนี้]เป็นกิจศรัทธาที่สำคัญของพ่อ สมัยก่อน เมื่อพ่อมีโอกาสมา[ที่กรุงโรม ก่อนจะได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา] พ่อมักจะไปที่นั่นในเช้าวันอาทิตย์ และไปอยู่ที่นั่นพักใหญ่ พ่อผูกพันกับที่นั่นมาก” พระองค์ตรัสเพิ่มเติมว่า พระองค์ได้ทรงทำงานร่วมกับนายจารีตของสมเด็จพระสันตะปาปา ในการจัดทำจารีตสำหรับพิธีปลงพระศพของพระสันตะปาปา “พ่อได้ทำให้เรียบง่ายขึ้นมาก” ทั้งนี้ การปลงพระศพของพระสันตะปาปาครั้งล่าสุดได้จัดขึ้นถวายแด่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร
ความสัมพันธ์กับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ตรัสต่อเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของพระองค์กับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ผู้ได้ทรงเป็นสมเด็จพระสันตะปาปากิตติคุณถึง 10 ปี และอีกไม่นานจะครบรอบ 1 ปีของการสิ้นพระชนม์ พระองค์ตรัสว่า “พ่อใกล้ชิดกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์มาก บางครั้งพ่อไปหาพระองค์เพื่อขอคำปรึกษา และพระองค์ก็จะประทานคำปรึกษาที่เปี่ยมด้วยปรีชาญาณอย่างมากแก่พ่อ แต่พระองค์ก็จะตรัสกับพ่อว่า ‘นั่นแหละท่าน ท่าน [(คือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส)] คิดแบบนี้ใช่ไหม’ และสุดท้ายพระองค์ก็จะให้พ่อตัดสินใจเอง พระองค์ทรงช่วยพ่อเสมอ พระองค์ทรงช่วยพ่อด้วยพระทัยกว้างอย่างมาก”
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสว่า การได้ “บอกลา” สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ เป็น “พระพร” สำหรับพระองค์ ไม่นานหลังจากที่พระองค์ได้ทรงทราบจากพยาบาลว่า พระอาการของสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ไม่สู้ดี พระองค์ได้ตรัสภายในการเข้าเฝ้าแบบทั่วไปครั้งสุดท้ายของปี 2022 ขอให้คริสตชนภาวนาเพื่อสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ตรัสเล่าย้อนว่า “พ่อได้ไปหาพระองค์ ตอนนี้พระองค์รู้สึกตัวอยู่ แต่ตรัสอะไรไม่ได้แล้ว พระองค์ทรงกุมมือพ่อ แบบนี้ เป็นการบอกลาที่สวยงาม สวยงามจริง ๆ หลังจากนั้น 3 วันพระองค์ก็สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ทรงเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ ทรงเป็นผู้ที่สุภาพถ่อมตนและเรียบง่าย และเมื่อทรงรู้ว่าอะไรเป็นข้อจำกัดของพระองค์ พระองค์ก็ทรงมีความกล้าหาญที่จะวางมือ พ่อรักและเคารพพระองค์”
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสว่า พระองค์ไม่ “รู้สึก” ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ไม่อยู่แล้ว เพราะว่าสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ได้จากไปในแบบที่ไม่ต่างจากที่พระองค์ประทับอยู่ที่บ้านพัก “มารดาแห่งพระศาสนจักร” (Mater Ecclesiae) ในช่วงไม่กี่ปีสุดท้ายในพระชนม์ชีพ คือเป็นการจากไปอย่างซ่อนเร้น ด้วยความเงียบ และเป็นไปตามธรรมชาติ “พ่อไม่รู้สึกเลย บางครั้งพ่อไปภาวนาในที่ฝังพระศพของพระสันตะปาปา [ที่มหาวิหารนักบุญเปโตร] แล้วพ่อก็เดินผ่านที่ฝังพระศพของพระองค์ แต่พ่อก็ไม่รู้สึกว่า[พระองค์จากไปแล้ว] สิ่งนี้เหมือนกับเวลาที่พระองค์ประทานคำปรึกษาแก่พ่อ เพราะว่าตอนนั้นพ่อก็จะไม่รู้สึกว่ามีใครกำลังชี้แนะอะไรพ่ออยู่ พระองค์ทรงมีปรีชาญาณในการทำกิจการอย่าง ๆ ด้วยพระทัยแห่งความเป็นอิสระ [คือไม่ยัดเยียดอะไรแก่ใคร] และตอนนี้ก็ไม่ได้ต่างอะไรจากเมื่อก่อน แต่ก่อนนี้พ่อมีพระองค์อยู่ใกล้ตัว ตอนนี้พระองค์อยู่ห่างไกลจากพ่อ แต่เป็นการประทับอยู่ในแบบที่เรียบง่ายอย่างยิ่ง”
สมเด็จพระสันตะปาปาไม่ทรงมีแผนจะสละตำแหน่ง
สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสเหมือนกับที่เคยตรัสไว้หลายครั้งว่า พระองค์ไม่ทรงขจัดความเป็นไปได้ที่ว่า สักวันหนึ่งอาจจะทรงกระทำเหมือนกับสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ แต่ทรงย้ำว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลา โดยเมื่อครั้งที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้ประทานสัมภาษณ์แก่ ABC เมื่อ 1 ปีมาแล้ว พระองค์ได้ทรงเปิดเผยว่าเมื่อทรงรับตำแหน่งพระสันตะปาปา พระองค์ได้ทรงปฏิบัติตามธรรมเนียม คือได้ทรงฝากหนังสือลาออกในกรณีที่ทรงมีปัญหาเรื่องพระพลานามัย[จนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้] พระองค์ประทานหนังสือนี้ไว้กับพระคาร์ดินัลตาร์ชีซิโอ แบร์โตเน เลขาธิการของสำนักงานเลขาธิการแห่งรัฐในขณะนั้น ปัจจุบันนี้หนังสือดังกล่าวก็ยังอยู่ที่สำนักงานเลขาธิการแห่งรัฐ แต่สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า “พ่อไม่ได้คิดถึงมันเท่าไหร่ เมื่อพ่อเห็นสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ตรัสว่าพอแล้ว เมื่อทรงตระหนักว่าทรงไปต่อไม่ไหว ตอนนั้นพ่อได้เห็นความกล้าหาญของพระองค์ นี่เป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับพ่อ และพ่อก็วิงวอนต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ขอให้พ่อพูดได้เหมือนกันว่า ‘พอแล้ว’ แต่เป็นในเวลาที่พระองค์ต้องการ”
พระชันษาและพระพลานามัย
ต่อคำทูลถามที่ว่า จริงหรือไม่ที่หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์สิ้นพระชนม์ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรง “เข้มงวดยิ่งขึ้น” แต่ในขณะเดียวกัน บรรดาผู้ที่กล่าวร้ายพระองค์ก็ “มีอันตรายยิ่งขึ้น ดุร้ายยิ่งขึ้น” เหมือนกัน ดังที่นักวิจารณ์บางคนได้กล่าวอ้างไว้ สมเด็จพระสันตะปาปาได้ตรัสตอบด้วยพระอารมณ์ขันว่า “ไม่เลยลูก บางคนก็ต้องถูกตีบ้าง…” พระองค์ได้ทรงอุปมาเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างบิดากับบุตร “บางครั้งก็ต้องอบรมกันบ้าง คนที่นี่ดีมาก พ่อเป็นคนเรื่องมาก บางครั้งพ่อก็ใจร้อน แต่พวกเขาก็ทนพ่อได้… คนในสันตะสำนักเป็นคนดีมาก” เมื่อผู้สื่อข่าวทูลว่า “แต่ตอนนี้พระองค์ไม่ได้เข้มงวดกับเขามากเหมือนเมื่อก่อน” สมเด็จพระสันตะปาปาก็ตรัสตอบว่า “แม้แต่บรรดาปู่ย่าตายาย เขาก็เป็นคนดีขึ้นได้เหมือนกัน พอแก่ตัวลงก็เป็นแบบนี้แหละลูก”
เกี่ยวกับเรื่อง “พระชันษา” สมเด็จพระสันตะปาปา ผู้ประชวรด้วยโรคหลอดลมอักเสบเมื่อไม่นานนี้ และได้ทรงรับการผ่าตัด 2 ครั้งที่โรงพยาบาลเจเมลลีในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ทรงยอมรับว่าพระพลานามัยของพระองค์ไม่ค่อยแข็งแรง แต่พระอาการของพระองค์ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล “พ่อรู้สึกดี พ่อรู้สึกดีขึ้น” แต่พระองค์ตรัสเสริมว่า “พ่ออยากให้พวกลูกภาวนาเพื่อสุขภาพของพ่อ” เพราะว่า “ความชราไม่ได้มาอย่างโดด ๆ … ไม่ใช่สิ่งที่มาแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่เป็นสิ่งที่มาทั้งอย่างนั้น” ในขณะเดียวกัน พระองค์ตรัสว่า “ลูกต้องรู้ว่าจะน้อมรับของขวัญแห่งความชราอย่างไรดี” และว่า “หากเปลี่ยนมุมมองวิธีคิด เราก็อาจจะทำโน่นทำนี่ได้ดีเหมือนกัน” สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสเผยว่า “บางครั้งมีคนบอกว่าพ่อเป็นคนบุ่มบ่าม เพราะว่าพ่ออยากทำโน่นทำนี่อยู่เรื่อย ไม่อยากอยู่นิ่ง” พระองค์ตรัสว่าสิ่งนี้เป็นสัญลักษณ์ว่า “พ่อก็แข็งแรงอยู่เหมือนกัน”
แผนการเสด็จเยือนที่ต่าง ๆ ในอนาคต
การประชวรด้วยโรคหลอดลมอักเสบ ทำให้สมเด็จพระสันตะปาปาต้องยกเลิกแผนการเสด็จยังที่ประชุม COP28 ที่ดูไบเมื่อต้นเดือนธันวาคม สมเด็จพระสันตะปาปาทรงยอมรับว่า “จริงอยู่ที่ตอนนี้มีการทบทวนแผนการเดินทางทั้งหมด มีการทบทวนแผนเดินทางไกล ข้อจำกัดต่าง ๆ มีอยู่ ใช่ไหมลูก ข้อจำกัดนี้ที่ทำให้เรารู้ว่า สิ่งต่าง ๆ หยุดลงตรงนี้ แล้วก็มีสิ่งอื่นเริ่มขึ้นแทน ความชราทำให้คนเราสุขุมอย่างมาก เป็นสิ่งที่สวยงาม”
ถึงแม้ว่าแผนการเสด็จเยือนที่ต่าง ๆ กำลังได้รับการทบทวน แต่สมเด็จพระสันตะปาปาก็ยังคงหวังว่าจะได้เสด็จเยือน 3 แห่งในปีหน้า ได้แก่เบลเยียม โปลีนีเซีย และอาร์เจนตินา
สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสว่า การเสด็จเยือนที่แรกยังเบลเยียม ตามคำทูลเชิญจากสมเด็จพระราชาธิบดีฟีลิปและสมเด็จพระราชินีมาติลด์ เป็นการเดินทางที่ “ปลอดภัย” แต่การเสด็จเยือนอีก 2 อันยัง “อยู่ระหว่างพิจารณา” และ “เราจะได้เห็นว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นแบบใด”
นี่เป็นครั้งแรกที่สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสต่อสาธารณะเรื่องการเสด็จเยือนโพลีนีเซีย ขณะที่พระดำริจะเสด็จเยือนอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นบ้านเกิดของพระองค์ เป็นสิ่งที่สมเด็จพระสันตะปาปาได้ตรัสถึงในการประทานสัมภาษณ์เกือบทุกครั้งในรอบปีที่ผ่านมา
ประธานาธิบดีฆาบิเอร์ มิเลย์ ซึ่งเพิ่งจะได้รับเลือกตั้ง ได้ทูลเชิญให้สมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเยือนอาร์เจนตินาเช่นกัน ภายในการสนทนาทางโทรศัพท์หลังจากที่เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ต่อคำถามเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้นำอาร์เจนตินาคนใหม่เคยพูดเกี่ยวกับสมเด็จพระสันตะปาปาไว้ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาตรัสตอบว่า “พ่อขอยกสิ่งที่คนอื่นเคยพูดเอาไว้ว่า ในการหาเสียงเลือกตั้ง มีคำพูดต่าง ๆ ที่เป็นการพูดเพื่อสร้างกระแส พวกเขาพูดเรื่องต่าง ๆ อย่างจริงจัง แต่สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เป็นของยั่งยืนถาวร ของพวกนี้เป็นสิ่งที่ใช้เรียกร้องความสนใจ แต่สักพักก็จางหายไปเอง เราต้องแยกแยะอย่างมากระหว่างสิ่งที่นักการเมืองพูดในการหาเสียง กับสิ่งที่เขาทำในเวลาต่อมา เพราะว่า [หลังจากการรณรงค์หาเสียง] ก็จะมาถึงเวลาแห่งความเป็นรูปธรรม เวลาแห่งการตัดสินใจ”
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร เก็บบทสัมภาษณ์พระสันตะปาปาฟรานซิสโดยนักข่าวสถานีโทรทัศน์เม็กซิกัน เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2023)