สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
General Audience/การเข้าเฝ้าแบบทั่วไป
ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน
เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2024
การเรียนคำสอนต่อเนื่อง : พระจิตกับพระศาสนจักรผู้เป็นเจ้าสาว – พระจิตเจ้าทรงนำทางประชากรของพระเจ้าสู่พระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นความหวังของเรา (14) ของขวัญสำหรับเจ้าสาว : พระพรพิเศษ ของประทานจากพระจิตเจ้าเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เจริญพรมายังพี่น้องชายหญิงที่รัก อรุณสวัสดิ์
ในการเรียนคำสอนต่อเนื่องครั้งก่อน ๆ พวกเราได้พูดถึงกิจการบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ของพระจิตเจ้า ภายในศีลศักดิ์สิทธิ์ ในการอธิษฐานภาวนา และภายในการทำตามแบบอย่างของแม่พระ แต่[ในวันนี้] พ่อขอเชิญชวนให้พวกเราฟังถ้อยคำอันหนึ่งจากสภาสังคายนาวาติกันที่สองด้วย ถ้อยคำที่เป็นที่รู้จักนี้กล่าวไว้ว่า “พระจิตเจ้าทรงทำให้ประชากรของพระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ ทรงนำทาง และทรงประดับประดาประชากรของพระเจ้าด้วยคุณธรรมต่าง ๆ ไม่เฉพาะผ่านทางศีลศักดิ์ศิทธิ์และศาสนบริการต่าง ๆ เท่านั้น แต่ยังทรงแจกจ่ายของประทานเฉพาะตนให้แต่ละคนตามที่ทรงพอพระทัยด้วย” (เทียบ 1 คร. 12,11) (สังฆธรรมนูญ Lumen gentium ว่าด้วยพระศาสนจักร ข้อ 12) พวกเราเองก็มีของประทานเฉพาะที่เป็นของส่วนตัว ซึ่งพวกเราแต่ละคนได้รับจากพระจิตเจ้า
เพราะฉะนั้น ในตอนนี้พ่อจึงอยากจะกล่าวเกี่ยวกับวิธีการอย่างที่สองที่พระจิตเจ้าทรงกระทำกิจการ ซึ่งก็คือ กิจการที่เป็นพระพรพิเศษ หากจะอธิบายให้ยากสักเล็กน้อย ก็จะกล่าวได้ว่า นิยามของพระพรพิเศษ มีองค์ประกอบสองอย่างด้วยกัน อย่างแรก คือ พระพรพิเศษเป็นของประทาน “เพื่อประโยชน์ส่วนรวม” (1 คร. 12,7) เพื่อ[ให้ผู้ที่ได้รับพระพรพิเศษไป]ทำประโยชน์ให้แก่ทุกคน กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า ไม่ใช่สิ่งที่มีวัตถุประสงค์หลักโดยทั่วไปเพื่อบันดาลให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ หากแต่เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อ “รับใช้” ประชาคม (เทียบ 1 ปต. 4,10) นี่คือข้อความคิดอย่างแรก ส่วนอย่างที่สองคือ พระพรพิเศษเป็นสิ่งที่[พระจิตเจ้า]ประทานให้แก่ “บุคคลหนึ่ง” หรือ “คนบางคน” โดยเฉพาะ ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนได้รับในแบบเดียวกัน [พระพรพิเศษจึงต่าง]จากพระหรรษทานบันดาลความศักดิ์สิทธิ์ คุณธรรมทางเทววิทยา และศีลศักดิ์สิทธิ์ ซึ่ง[สามอย่างที่ว่านี้]เป็นสิ่งที่คนทุกคนได้รับเหมือน ๆ กัน พระพรพิเศษเป็น[ของประทานสำหรับ]บุคคลหรือประชาคมหนึ่ง เป็นของขวัญที่พระเจ้าประทานให้แก่ลูก[โดยเฉพาะ]
ในเรื่องนี้ สภาสังคายนาได้อธิบายไว้ด้วยว่า พระจิตเจ้า “ทรงแจกจ่ายพระหรรษทานพิเศษในท่ามกลางบรรดาผู้เชื่อทุกระดับ เพื่อที่ของประทานเหล่านี้จะทำให้เขาเหมาะสมและพร้อมที่จะรับเอาการงานหรือหน้าที่หลากหลายที่เป็นประโยชน์ต่อการฟื้นฟูและก่อร่างพระศาสนจักร ดังคำกล่าวของ[นักบุญเปาโล]ที่ว่า ‘พระจิตเจ้าทรงแสดงพระองค์ในแต่ละคนเพื่อประโยชน์ส่วนรวม’” (เทียบ 1 คร. 12,7)”
พระพรพิเศษเป็น “อัญมณี” หรือของประดับที่พระจิตเจ้าทรงแจกจ่ายเพื่อตบแต่งเจ้าสาวของพระคริสตเจ้าให้งดงามยิ่งขึ้น เมื่อคิดเช่นนี้เราก็สามารถเข้าใจได้ว่า เพราะเหตุใดถ้อยคำสภาสังคายนาจึงได้สรุป[เรื่องพระพรพิเศษ]ด้วยการเตือนใจว่า “เหนือสิ่งอื่นใด พระพรพิเศษต่าง ๆ เหล่านี้ ทั้งที่เป็นสิ่งพิเศษเหนือธรรมดา หรือเป็นสิ่งที่เรียบง่ายและธรรมดา ล้วนแต่เหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อความจำเป็นของพระศาสนจักร จึงเป็นสิ่งที่ต้องน้อมรับด้วยความขอบคุณและความบรรเทาใจ” (สังฆธรรมนูญ Lumen gentium ว่าด้วยพระศาสนจักร ข้อ 12)
สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่สิบหกได้ทรงยืนยันไว้ว่า “ผู้ใดก็ตามที่พิจารณาประวัติศาสตร์ยุคหลังสภาสังคายนา ผู้นั้นย่อมเห็นได้ถึงพลวัตแห่งการฟื้นฟูที่แท้จริง ซึ่งบ่อยครั้งเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด โดยอยู่ในรูปของขบวนการอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ที่แทบจะทำให้สัมผัสได้ถึงความมีชีวิตชีวาไม่รู้จบของพระศาสนจักรศักดิ์สิทธิ์” นี่คือพระพรพิเศษที่[พระจิตเจ้า]ประทานให้แก่กลุ่มคน โดยผ่านทางบุคคล
พระพรพิเศษเป็นสิ่งหนึ่งที่พวกเราจะต้องค้นพบกันอีกครั้ง เพื่อที่การสนับสนุนบทบาทของฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งฆราวาสหญิง จะไม่ถูกมองว่าเป็นเป็นเพียงข้อเท็จจริงเชิงสถาบันหรือสังคมวิทยา แต่จะได้เป็นที่เข้าใจภายในมิติฝ่ายจิต และมิติในความเกี่ยวข้องกับพระคัมภีร์ด้วย ซึ่งที่จริงแล้ว ฆราวาสไม่ใช่คนอันดับท้ายสุด ไม่ใช่คนนอกที่มีไว้สำหรับขอความร่วมมือ แล้วก็ไม่ได้เป็นเพียงกองหนุนของบรรดาศาสนบริกร เพราะบรรดาฆราวาสก็ได้รับพระพรพิเศษและของประทานต่าง ๆ เป็นของตน ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาอาจนำมาทำประโยชน์ให้แก่พันธกิจของพระศาสนจักรได้
พ่ออยากเสริมอีกเรื่องหนึ่งว่า เวลาที่เราพูดเรื่องพระพรพิเศษ เราจะต้องขจัดความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งในทันที คือ [ความคิดที่]มองว่าพระพรพิเศษเป็นพรสวรรค์หรือความสามารถบางอย่างที่พิเศษและน่าตื่นตาตื่นใจ เพราะในทางตรงข้าม พวกเราแต่ละคนล้วนได้รับพระพรพิเศษเฉพาะตน ซึ่งอาจเป็นของประทานที่ดูธรรมดา ๆ แต่หากการดลใจของพระจิตเจ้าทำให้เรานำของประทานธรรมดาที่ว่านี้ไปเจริญชีวิตด้วยความรักท่ามกลางสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน ก็ย่อมจะทำให้ของประทานนี้ได้รับคุณค่าเหนือธรรมดา การตีความเรื่องพระพรพิเศษแบบนี้เป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าสำหรับคริสตชนจำนวนมาก เมื่อมีใครพูดเกี่ยวกับพระพรพิเศษ เขาก็จะเศร้าใจและผิดหวัง เพราะเขาคิดว่าตนเองไม่มีอะไร และรู้สึกไปว่าตนเองถูกกีดกัน หรือเป็นเพียงคริสตชนชั้นสอง ซึ่งที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย ไม่มีใครเป็นคริสตชนชั้นสอง เพราะว่าทุกคนล้วนได้รับพระพรพิเศษเฉพาะตน ทั้ง[ในระดับปัจเจก คือ]ตัวเขาเอง และ[ในระดับของ]ประชาคมที่เขาสังกัดอยู่ด้วย นักบุญเอากุสตินได้ตอบเรื่องนี้เอาไว้นานแล้ว คือตั้งแต่ยุคสมัยของท่าน โดยใช้การยกตัวอย่างที่สละสลวย ท่านกล่าวกับประชากรของท่านเอาไว้ว่า “หากท่านมีความรัก[ต่อผู้อื่น] สิ่งที่ท่านมีอยู่นั้นก็ไม่ได้เล็กน้อยเลย เพราะในความเป็นจริง หากท่านรักความเป็นเอกภาพ สิ่งใดที่แต่ละคนภายในความเป็นเอกภาพนั้นมีอยู่เป็นของตน สิ่งนั้นก็ย่อมจะเป็นของตัวท่านด้วย ภายในร่างกาย มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่มองเห็น แต่ดวงตามองเห็นเพื่อตัวมันเองอย่างเดียวหรือไม่ ไม่ใช่อย่างนั้น เพราะดวงตาย่อมมองเห็นทั้งเพื่อมือ เพื่อขา และเพื่ออวัยวะอื่นทุกส่วน” (บทความต่าง ๆ ว่าด้วยพระวรสารของนักบุญยอห์น 32,8.)
คำกล่าวนี้ได้เผยความลับที่ว่า เพราะเหตุใด[นักบุญเปาโล]อัครสาวกจึงได้ให้นิยามความรักว่า “เป็นหนทางที่ประเสริฐยิ่งกว่า” (เทียบ 1 คร. 12,31) เพราะ[หนทางแห่งความรัก]ทำให้เรารักพระศาสนจักร ทำให้เรารักประชาคมที่เราอาศัยอยู่ และภายในเอกภาพเช่นนี้ พระพรพิเศษทั้งหลายย่อมไม่เป็นเพียงของ[ส่วนตัว]ของแต่ละคนเท่านั้น แต่[ทุกคนย่อมถือได้ว่าพระพรพิเศษของผู้อื่น]ก็เป็นของ “เรา” ด้วย เช่นเดียวกับที่พระพรพิเศษที่เราได้รับ แม้ว่าอาจดูเป็นสิ่งเล็กน้อยก็ตาม แต่ก็เป็นพระพรพิเศษของทุกคน ที่มีไว้เพื่อประโยชน์ของทุกคน ความรักย่อมทำให้พระพรพิเศษเพิ่มขึ้นหลายเท่าทวีคูณ เพราะว่าความรักจะทำให้พระพรพิเศษของคนหนึ่งกลายเป็นของทุกคน ขอขอบใจ
พระดำรัสทักทายพิเศษของสมเด็จพระสันตะปาปา
พ่อขอทักทายบรรดาผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนที่พูดภาษาอังกฤษซึ่งได้มาหาพ่อในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มจากนอร์เวย์ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ และสหรัฐอเมริกา พ่อขอให้ลูกทุกคนในที่นี้ตลอดจนครอบครัวของลูก จงได้รับความปีติยินดีและสันติสุขของพระเยซูคริสตเจ้า องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราทั้งหลาย ขอให้พระเจ้าทรงอวยพรลูกทุกคน
วันนี้เป็นวันเพื่อสิทธิเด็กและเยาวชนนานาชาติ พ่อขอถือโอกาสนี้ประกาศว่า ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ปีหน้า จะมีการจัดการประชุมโลกเพื่อสิทธิเด็กขึ้นที่วาติกันแห่งนี้ ภายใต้หัวข้อที่ว่า “จงรักพวกเขาและปกป้องพวกเขา” โดยจะมีผู้เชี่ยวชาญและบุคคลจากประเทศต่าง ๆ เข้าร่วมประชุม การประชุมนี้จะเป็นโอกาสอันดีเพื่อค้นหาหนทางใหม่ ๆ สำหรับช่วยเหลือและปกป้องเด็กหลายล้านคนที่ยังคง[ไม่ได้รับการคุ้มครอง]สิทธิต่าง ๆ และต้องมีชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อันตราย ถูกเอารัดเอาเปรียบและข่มเหงทำร้าย ตลอดจนเด็กที่ต้องทนทุกข์จากผลกระทบอันน่าเศร้าของสงคราม
พ่อขอขอบใจเด็ก ๆ ทุกคนที่ร่วมเตรียมจัดการประชุมนี้ นี่มีเด็กคนหนึ่งกำลังเดินมาหาพ่อ และตอนนี้เด็กคนอื่นก็ตามเขามาทางนี้กันทุกคนเลย พ่อเห็นว่าเด็ก ๆ นี่ พอมีคนหนึ่งเริ่มทำอะไรสักอย่าง เด็กคนอื่นก็จะพากันทำแบบเดียวกันหมด ขอให้พวกเราทักทายเด็ก ๆ ด้วย สวัสดีตอนเช้า พ่อขอขอบใจพวกลูกทุกคน
พ่อขอประกาศว่า พ่อจะสถาปนาบุญราศีการ์โล อากูติส เป็นนักบุญ ภายในกิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับเยาวชน [25 – 27 เมษายน 2025] และพ่อจะสถาปนาบุญราศีปีแอร์ จอร์โจ ฟรัซซาตี เป็นนักบุญ ภายในกิจกรรมปีศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนหนุ่มสาว [28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม 2025] ซึ่งทั้งสองกิจกรรมนี้จะมีขึ้นในปีหน้า
เมื่อวานนี้ครบรอบหนึ่งพันวันนับตั้งแต่การรุกรานยูเครน[ได้เริ่มขึ้น] [วันนี้]เป็นหมุดหมายที่น่าเศร้าสลด เพราะว่า[การรุกราน]ได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากมาย ก่อให้เกิดการทำลายล้าง[อย่างมหาศาล] และในขณะเดียวกันก็เป็นหายนะที่น่าอับอายของมนุษยชาติทั้งมวลด้วย อย่างไรก็ตาม พวกเราจะต้องไม่หมดกำลังใจ พวกเราจะต้องยืนหยัดอยู่เคียงข้างผู้คนชาวยูเครนที่กำลังถูกทรมาน พวกเราจะต้องเรียกร้องสันติภาพและพยายามทำงานอย่างไม่ลดละ เพื่อให้การเสวนาเข้ามาแทนที่การใช้อาวุธ และเพื่อให้การพบปะเข้ามาแทนที่การเผชิญหน้า
เมื่อไม่นานมานี้ พ่อได้รับจดหมายจากนักศึกษาคนหนึ่งในยูเครน เขาบอกกับพ่อว่า “คุณพ่อครับ ในวันพุธ ในยามที่พระองค์จะทรงระลึกถึง[ยูเครนซึ่งเป็น]ประเทศของลูก และตรัสกับผู้คนทั่วโลกเรื่องสงครามเลวร้ายที่ได้ดำเนินมาแล้วถึงหนึ่งพันวัน นอกจากเรื่องความทุกข์ทรมานของพวกลูก[ชาวยูเครน]แล้ว ลูกอยากขอให้พระองค์ตรัสเป็นพยานถึงความเชื่อของพวกลูกด้วย ถึงแม้ว่าความเชื่อนี้จะไม่สมบูรณ์แบบ แต่คุณค่าความเชื่อ[ของพวกลูก]ก็ไม่ได้ลดน้อยไปเลย เป็นเหมือนกับฝีพู่กันหยาบ ๆ แต่เขียนภาพพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ ในช่วงไม่นานมานี้ ชีวิตลูกต้องประสบกับความตายมากมายเหลือเกิน ลูกอาศัยอยู่ในเมืองที่ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ [พอมีขีปนาวุธโจมตีลูกหนึ่ง ก็]ทำให้มีพลเรือนหลายสิบคนต้องบาดเจ็บล้มตาย การที่ต้องเห็นคนจำนวนมากต้องหลั่งน้ำตาแบบนี้เป็นเรื่องทรมานสำหรับลูก ถ้าเป็นไปได้ลูกก็อยากจะหนีไปให้พ้น ลูกอยากกลับไปเป็นเด็กภายในอ้อมแขนของแม่ ลูกอยากอยู่ท่ามกลางความสงบเงียบและความรัก แต่ตอนนี้ ลูกขอบพระคุณพระเจ้า เพราะความเจ็บปวดนี้สอนให้ลูกรักผู้อื่นมากขึ้น ความเจ็บปวดไม่ได้เป็นเพียงหนทางที่นำไปสู่ความโกรธและความสิ้นหวังเท่านั้น เพราะ[สำหรับผู้ที่มีความเชื่อ] ความเจ็บปวดก็เป็นครูที่ดี สอนให้เขารู้จักรักผู้อื่น [ทำให้ลูกคิดว่า] หากผู้ใดรู้สึกเจ็บปวดเป็น ก็เท่ากับว่าผู้นั้นรักคนอื่นเป็น ดังนั้น ลูกจึงอยากขอกับพระองค์ว่า เวลาที่พระองค์ตรัสเกี่ยวกับความเจ็บปวดของพวกลูก ในยามที่พระองค์ทรงระลึกถึงหนึ่งพันวันแห่งความทุกข์ทรมาน ก็ขอให้พระองค์โปรดระลึกถึงหนึ่งพันวันแห่งความรักด้วย เพราะมีเพียงความรัก ความเชื่อ และความหวังเท่านั้น ที่จะทำให้บาดแผลต่าง ๆ มีความหมายที่แท้จริงได้” นี่คือข้อความที่นักศึกษาจากยูเครนผู้นี้ได้เขียนถึงพ่อ
ท้ายสุด พ่อขอส่งความคิดคำนึงไปยังบรรดาเยาวชน บรรดาคนป่วย คนชรา และคนที่เพิ่งแต่งงาน วันอาทิตย์ที่กำลังจะถึงนี้เป็นวันอาทิตย์สุดท้ายของเทศกาลธรรมดา ซึ่งเป็นวันที่เราทั้งหลายจะสมโภชพระคริสตเจ้า ราชาแห่งสากลจักรวาล พ่อขอเชิญชวนให้แต่ละคนรับรู้ว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงสถิตอยู่ในชีวิตของพวกเรา เพื่อที่ลูกจะได้มีส่วนร่วมในการสร้างพระอาณาจักรแห่งความรักและสันติสุขของพระองค์
ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเป็นวันระลึกถึงการมอบถวายแม่พระในพระวิหาร พวกเราจะเฉลิมฉลอง “วันเพื่อผู้อธิษฐานภาวนา” ขอให้พวกเราส่งใจไปใกล้ชิดกับบรรดาภคินีผู้ถือพรตซึ่งองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเรียกให้ไปเจริญชีวิตด้วยการเพ่งฌาน และขอให้ประชาคมพระศาสนจักรจงมอบการสนับสนุนที่จำเป็นให้แก่บรรดาอารามต่าง ๆ ทั้งในด้านวัตถุและด้านจิตใจด้วย พ่อขออวยพรลูกทุกคน
สรุปพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปา
พี่น้องชายหญิงที่รัก ในการเรียนคำสอนต่อเนื่องเกี่ยวกับเรื่องพระจิตเจ้าภายในชีวิตของพระศาสนจักร วันนี้พวกเราจะพิจารณาเรื่องพระพรพิเศษ ซึ่งเป็นหนทางหนึ่งที่พระจิตเจ้าทรงกระทำกิจการบันดาลความศักดิ์สิทธิ์เพื่อก่อร่าง[พระศาสนจักรซึ่งเป็น]พระกายพระคริสตเจ้า พระพรพิเศษเป็นสิ่งที่มีความหลากหลายมากมาย เป็นพระหรรษทานพิเศษที่[พระจิตเจ้า]ประทานให้แก่คนแต่ละคน เพื่อให้พวกเขาก่อร่างพระศาสนจักรขึ้นภายในความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันและความเป็นผู้ศักดิ์สิทธิ์ สภาสังคายนาวาติกันที่สองได้กล่าวถึงความสำคัญของพระพรพิเศษต่าง ๆ ที่ฆราวาส โดยเฉพาะอย่างยิ่งฆราวาสหญิง ได้รับเพื่อที่พวกเขาจะได้มีส่วนทำประโยชน์ต่อพันธกิจของพระศาสนจักร นักบุญเปาโลได้เตือนใจพวกเราว่า ของประทานเหล่านี้ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีไว้เพื่อการรับใช้ด้วยความรัก มีไว้เพื่อความรักต่อพระคริสตเจ้า ผู้ทรงเป็นบ่อเกิดต้นทางและเป็นจุดหมายปลายทาง[ของสิ่งที่เป็นของประทานเหล่านี้] ขอให้พวกเราขอบพระคุณพระจิตเจ้า สำหรับการที่พระองค์โปรดประทาน[พระพรพิเศษ]ที่หลากหลายเป็นของขวัญเพื่อตบแต่งพระศาสนจักรให้งดงาม พร้อมทั้งจงวอนขอให้พระจิตเจ้าโปรดประทานของขวัญเหล่านี้อย่างอุดมต่อไปด้วย
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เก็บการสอนคำสอน/General audience ของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและเพื่อการไตร่ตรอง)