
เจริญพรมายังพี่น้องที่รัก อรุณสวัสดิ์
พระวรสารในวันนี้พูดกับเราเรื่องพระบัญญัติข้อเอก (เทียบ มธ. 22,24-40) มีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายผู้หนึ่งได้ถามพระเยซูคริสต์เรื่องนี้ และพระองค์ทรงตอบเขาว่าพระบัญญัติที่สำคัญที่สุด คือ “พระบัญญัติยิ่งใหญ่แห่งความรัก” กล่าวคือ “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดสติปัญญาของท่าน … ท่านต้องรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง” (เทียบ มธ. 22,37-39) ความรักที่มีต่อพระเจ้ากับความรักที่มีต่อเพื่อนบ้านเป็นสิ่งที่แยกจากกันไม่ออก ให้เรารำพึงเรื่องนี้กันสักเล็กน้อย
สิ่งแรก ข้อเท็จจริงที่ว่า สิ่งที่มาเป็นอันดับแรกคือความรักที่มีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้านั้น ได้ย้ำเตือนเราว่า พระเจ้าทรงนำหน้าเราเสมอ พระองค์ทรงมอบความอ่อนโยนไม่มีที่สิ้นสุดให้เราก่อน (เทียบ ยน. 4,19) และยังทรงใกล้ชิดเราก่อน เมตตาเราก่อน เพราะพระเจ้าอยู่ใกล้เราเสมอ ทรงอ่อนโยน และทรงเมตตาต่อเราเสมอ เด็กทารกเรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นบนตักของพ่อแม่ฉันใด พวกเราก็เรียนรู้ที่จะรักผู้อื่นในอ้อมกอดของพระเจ้าฉันนั้น ท่อนความหนึ่งจากหนังสือเพลงสดุดีกล่าวว่า “เหมือนเด็กน้อยในอ้อมแขนของมารดา” (เทียบ สดด. 131,2) เราควรรู้สึกเช่นนี้ในอ้อมแขนของพระเจ้า ซึ่งเป็นที่ที่เราจะได้ซึมซับความรักความเอ็นดูจากพระองค์ และเป็นที่ที่เราจะได้พบกับความรักที่ผลักดันให้เราอุทิศตนเองอย่างใจกว้าง นักบุญเปาโลได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ความรักของพระคริสตเจ้ามีพลังในการผลักดันผู้คนมุ่งสู่ความรัก (เทียบ 2 คร. 5,14) ทุกสิ่งมีจุดเริ่มต้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะฉะนั้น หากผู้ใดไม่มีรากอันนี้ ซึ่งได้แก่ความรักที่มีต่อพระเจ้า ความรักต่อพระเยซูคริสต์ เขาก็ย่อมจะไม่สามารถรักผู้อื่นได้อย่างแท้จริง
สิ่งที่สองที่มาจากพระบัญญัติแห่งความรัก เป็นการเชื่อมโยงความรักที่มีต่อพระเจ้าเข้ากับความรักที่มีต่อเพื่อนบ้าน หมายความว่า หากเรารักพี่น้อง เราก็จะเป็นคล้ายกับกระจกสะท้อนความรักของพระบิดา ประเด็นสำคัญอยู่ที่การสะท้อนความรักของพระเจ้า คือการรักพระเจ้าผู้ที่เรามองไม่เห็น ผ่านการรักพี่น้องที่เรามองเห็น (เทียบ 1 ยน. 4,20) [หลังจากที่] นักบุญเทเรซาแห่งกัลกัตตา [ได้รับรางวัลโนเบลเมื่อปี ค.ศ. 1979] ท่านเคยถูกผู้สื่อข่าว [ที่กรุงโรม] ถามว่า ท่านเคยคิดบ้างหรือไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำจะสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ ท่านนักบุญตอบว่า “ไม่เลย ฉันไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงโลก ฉันแค่อยากจะเป็นน้ำสะอาดหยดหนึ่งที่สะท้อนความรักของพระเจ้าให้ส่องสว่างออกมาเท่านั้น” ท่านนักบุญซึ่งเป็นคนตัวเล็ก ๆ สามารถทำกิจการดีได้มากมายเหลือเกิน ด้วยการที่ท่านทำตัวเป็นเหมือนหยดน้ำสะท้อนความรักของพระเจ้า บางครั้งเวลาที่เราได้พิจารณาชีวิตของท่านและนักบุญคนอื่น ๆ เราอาจคิดว่านักบุญพวกนี้เป็นวีรบุรุษวีรสตรีที่ไม่สามารถเอาอย่างได้ แต่พ่ออยากให้เราลองคิดอีกครั้งเรื่อง[การเป็น]หยดน้ำเล็ก ๆ นี้ ความรักเป็นหยดน้ำที่สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อหลายสิ่งหลายอย่าง แล้วเราจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร คำคอบคือ ด้วยการเป็นฝ่ายเดินก้าวแรกออกไปก่อนในทุกครั้ง การเดินก้าวแรกไม่ใช่เรื่องง่าย การให้อภัยผู้อื่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เราให้เราทำเช่นนี้ ให้เราเป็นหยดน้ำเล็ก ๆ ด้วยการเดินออกไปเป็นก้าวแรก
เช่นนี้แล้ว ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก ให้เราคิดถึงความรักของพระเจ้าที่นำหน้าเราเสมอ และให้เราถามตัวเองว่า เรามีความขอบคุณต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงรักเราก่อนหรือไม่ เรารู้สึกถึงความรักของพระองค์หรือไม่ และเรารู้สึกขอบคุณพระองค์หรือไม่ เราพยายามสะท้อนความรักของพระองค์หรือไม่ เราได้ก้าวเดินเป็นก้าวที่สอง[ตามพระองค์] ผ่านการพยายามรักพี่น้องของเราหรือไม่
ขอให้พระแม่มารีย์ โปรดช่วยให้เราทั้งหลายทำตามพระบัญญัติแห่งความรักได้ภายในชีวิตประจำวันของเรา ให้เรารักพระเจ้า ให้เราตอบรับความรักของพระองค์ และให้เรารักพี่น้องของเราด้วย
หลังการสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระดำรัส ดังนี้
ลูก ๆ และพี่น้องที่รัก พ่อขอขอบใจทุกคนในที่ต่าง ๆ ที่ได้ร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการอดอาหาร ภาวนา และใช้โทษบาปในหลายรูปแบบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ตุลาคม) เพื่อวิงวอนขอสันติภาพในโลกนี้ เราทั้งหลายจงอย่าหยุดยั้ง ให้เราภาวนาต่อไปเพื่อชาวยูเครน เพื่อปาเลสไตน์และอิสราเอลซึ่งกำลังพบกับสถานการณ์ที่เลวร้าย และเพื่อภูมิภาคอื่น ๆ ที่กำลังประสบภัยสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ่อขอให้มีการเปิดพื้นที่เพื่อประกันความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และให้มีการปล่อยตัวประกันโดยทันที ขอให้ทุกคนอย่าหมดหวังต่อความเป็นไปได้ในการทำให้เสียงอาวุธสงบลง และให้มีการหยุดยิง คุณพ่ออิบรอฮีม ฟัลตาส ผู้ช่วยอธิการคณะฟรันซิสกันในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ได้กล่าวในรายการ A Sua Immagine เมื่อไม่นานมานี้ว่า “ให้หยุดอาวุธ ให้หยุดอาวุธ” ให้เราร่วมกับคุณพ่อและพูดด้วยว่า ให้หยุดอาวุธ หยุดเสียที พี่น้องทั้งหลาย สงครามย่อมเป็นการพ่ายแพ้
พ่อขอแสดงความใกล้ชิดกับผู้คนในพื้นที่อากาปุลโกในเม็กซิโก ซึ่งถูกพายุเฮอร์ริเคนกำลังแรงมากพัดถล่มเมื่อไม่นานนี้ พ่อภาวนาเพื่อผู้เคราะห์ร้าย เพื่อครอบครัวของพวกเขา และเพื่อผู้คนที่ได้รับความเสียหายหนัก ขอให้แม่พระแห่งกัวดาลูเปได้โปรดเกื้อหนุนลูก ๆ ของพระนางท่ามกลางความยากลำบากนี้ด้วยเทอญ
พ่อขอทักทายลูก ๆ ทุกคน ทั้งชาวโรม และผู้แสวงบุญจากอิตาลีและจากที่อื่น ๆ ของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาพ่อแม่ของ “ลูก ๆ ในสวรรค์” [เป็นชื่อสมาคมสำหรับพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกไป] จากโตราโน นูโอโว กลุ่มคริสตชนจากกัมปานา [ในอิตาลี] กลุ่มฝึกอาชีพ “ตาลีตา กุม” จากวัดนักบุญยอห์นแห่งชาวฟลอเรนซ์ในกรุงโรม เด็ก ๆ ที่กำลังเตรียมรับศีลกำลังจากสโลวีเนีย และจากกันดอสโซ [ในอิตาลี] ตลอดจนกลุ่มผู้แสวงบุญ “ลูกนักบุญคามิลโล” และกลุ่มผู้ทำงานอภิบาลคนป่วย
พ่อขอให้ทุกคนมีความสุขในวันอาทิตย์ และโปรดอย่าลืมภาวนาเผื่อพ่อด้วย ให้ลูกรับประทานอาหารให้อร่อย แล้วไว้เจอกันใหม่
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร เก็บคำปราศรัย ANGELUS ของพระสันตะปาปาฟรานซิสมาแบ่งปันและไตร่ตรอง)