สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
General Audience/การเข้าเฝ้าแบบทั่วไป
ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน
เมื่อวันพุธที่ 24 เมษายน 2024


คำสอน : คุณธรรมและพยศชั่ว (17) ชีวิตในพระหรรษทานตามการทรงนำของพระจิตเจ้า
เจริญพรมายังพี่น้องที่รัก อรุณสวัสดิ์
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ พวกเราได้พิจารณาไตร่ตรองเกี่ยวกับคุณธรรมพื้นฐาน[สี่ประการ] ได้แก่ ความรอบคอบ ความยุติธรรม ความกล้าหาญ และความรู้ประมาณ ดังที่พวกเราได้เน้นแล้วหลายครั้งว่า คุณธรรมสี่ประการข้างต้นนี้[มีที่มาจาก]ปรีชาญาณที่เก่าแก่ยาวนาน และเป็นสิ่งที่มีมาก่อนคริสต์ศาสนา โดยถึงแม้จะว่าจะเป็นยุคก่อนที่พระคริสตเจ้า[จะเสด็จมา] แต่ก็ได้มีการสอนกันว่า ความซื่อสัตย์เป็นหน้าที่ของพลเมือง ปรีชาญาณเป็นกฎเกณฑ์สำหรับการกระทำต่าง ๆ ความกล้าหาญเป็นส่วนประกอบพื้นฐานสำหรับชีวิตที่มุ่งสู่ความดี และว่าความรู้ประมาณเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการไม่พ่ายแพ้แก่ความเกินพอดีต่าง ๆ คริสต์ศาสนาไม่ได้[ลบล้างและแทนที่]มรดกที่เก่าแก่เช่นนี้ของมนุษยชาติ หากแต่คริสต์ศาสนาได้มุ่งเน้นให้ความสำคัญ ได้ขยายความสิ่งเหล่านี้ ชำระสิ่งเหล่านี้ให้พ้นจากมลทิน และนำสิ่งเหล่านี้เข้ารวมเป็นส่วนหนึ่งในความเชื่อ[ของคริสต์ศาสนา]
ดังนั้น [เราจึงเห็นได้ว่า]ในหัวใจของมนุษย์ทุกคนมีความสามารถแห่งการแสวงหาความดีอยู่ ซึ่งการที่พระจิตเจ้าได้ถูกประทานมานั้น ก็เพื่อที่ว่า เมื่อผู้ใดได้รับของประทาน[แห่งพระจิตเจ้า] เขาจะได้รู้จักแยกแยะอย่างชัดเจนว่าอะไรดีอะไรชั่ว ได้มีความแข็งแกร่งที่จะยึดมั่นต่อความดีด้วยการปฏิเสธความชั่ว และพอเขาทำเช่นนี้ เขาก็จะได้เป็นตัวเองอย่างดีพร้อมครบบริบูรณ์
อย่างไรก็ตาม ในเส้นทางที่เราทุกคนกำลังก้าวเดินสู่ความบริบูรณ์แห่งชีวิตซึ่งเป็นจุดมุ่งหมายของมนุษย์ทุกคน กล่าวคือ การที่เขาจะได้เป็นความบริบูรณ์ ได้เปี่ยมด้วยชีวิตนั้น ผู้ที่เป็นคริสตชนย่อมจะได้รับความช่วยเหลือเป็นพิเศษจากพระจิตเจ้า ผู้ทรงเป็นพระจิตของพระเยซูเจ้า [ความช่วยเหลืออันนี้]ย่อมเกิดผลได้ผ่านทางคุณธรรมอีกสามประการ ซึ่งเป็นของประทาน เป็นคุณธรรมที่มีลักษณะทางคริสต์ศาสนาโดยเฉพาะ และมักถูกกล่าวถึงด้วยกันภายในพันธสัญญาใหม่ แง่มุมพื้นฐาน[ทั้งสามประการ]ซึ่งเป็นลักษณะของชีวิตคริสตชนนี้ คือความเชื่อ ความหวัง และความรัก ซึ่งเป็นคุณธรรมสามอย่างที่เรามักจะนำมากล่าวถึงด้วยกัน
ให้เราพูดพร้อมกัน ๆ ความเชื่อ ความหวัง ลูกพูดให้ดังกว่านี้อีกครั้งนะ ความเชื่อ ความหวัง ความรัก ดีมากลูก
ต่อมาไม่นาน[หลังจากยุคพันธสัญญาใหม่] นักเขียนในคริสต์ศาสนาได้เรียก[คุณธรรมสามสิ่งนี้]ว่าเป็นคุณธรรม “ทางเทววิทยา” เหตุว่า[ทั้งสามสิ่งนี้]เป็นสิ่งที่ล้วนได้รับ[เป็นของประทาน]และนำมาปฏิบัติภายในความสัมพันธ์กับพระเจ้า การเรียกเช่นนี้มีไว้เพื่อแยกให้แตกต่างจากคุณธรรมอย่างอื่นอีกสี่ประการ ซึ่งถูกเรียกว่าเป็นคุณธรรม “หลัก” [หรือแกนหลัก] ด้วยว่าคุณธรรมสี่ประการนี้ล้วนแต่เป็น “แกน” สำหรับการมีชีวิตอย่างดี คุณธรรม[ทางเทววิทยา]ทั้งสามประการนี้เป็นสิ่งที่มาจากพระจิตเจ้า และเป็นสิ่งที่ได้รับภายในศีลล้างบาป [โดยเมื่อนำไปรวมกับคุณธรรมหลักอีกสี่ประการ] เหมือนกับที่มีการกระทำกันภายในการไตร่ตรองอย่างเป็นระบบหลายแนวทาง ก็จะรวมทั้งหมดเป็นคุณธรรมมีองค์เจ็ดประการซึ่งน่าอัศจรรย์ใจ และมักถูกนำไปเปรียบเทียบตรงข้ามกับพยศชั่วเจ็ดประการ หนังสือคำสอนพระศาสนจักรคาทอลิกได้ให้นิยามคุณธรรมทางเทววิทยาไว้ว่าดังนี้ คือ “คุณธรรม[ทางเทววิทยา]เป็นรากฐานของกิจกรรมทั้งปวงที่เป็นการกระทำตามศีลธรรมในคริสต์ศาสนา [คุณธรรมทางเทววิทยา]เป็นพลังบันดาลความมีชีวิตชีวา และทำให้กิจกรรมเหล่านี้ได้มีลักษณะแห่งความพิเศษ [คุณธรรมทางเทววิทยา]เป็นสิ่งที่ชี้นำและมอบชีวิตให้แก่คุณธรรมทางศีลธรรมประการต่าง ๆ ทั้งปวง พระเจ้าทรงหลั่ง[คุณธรรมทางเทววิทยาเหล่านี้]สู่วิญญาณของบรรดาผู้เชื่อ เพื่อให้เขาทั้งหลายสามารถประพฤติตนเช่นบุตรของพระองค์ และสมควรที่จะรับชีวิตนิรันดร [คุณธรรมเหล่านี้]เป็นประกันว่าพระจิตเจ้าประทับอยู่และทรงทำกิจการภายในศักยภาพต่าง ๆ ของมนุษย์” (ข้อ 1813)
คุณธรรมหลักทั้งหลายอาจนำพาให้มนุษย์กระทำความดีอย่างโดดเด่นได้ แต่ยังมีความเสี่ยงว่า เขาอาจทำเช่นนี้อย่างโดดเดี่ยวตัวคนเดียว ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น [ขณะที่]คุณธรรมทางเทววิทยา ซึ่งเป็นของประทานอันยิ่งใหญ่นี้ ย่อมเป็นสิ่งที่นำมาเจริญชีวิตภายในพระจิตเจ้า คริสตชนย่อมไม่อาจอยู่โดดเดี่ยวได้ การที่เขาทำความดี ย่อมไม่ได้เป็นเพราะความพยายามอันยิ่งใหญ่ที่เป็นความมุ่งมั่นส่วนตัว หากแต่เป็นเพราะว่าเขาได้ก้าวเดินในฐานะศิษย์ที่ถ่อมตน เดินตามรอยเท้าของพระเยซูเจ้าผู้ทรงเป็นอาจารย์ ผู้ทรงเดินบนเส้นทางนี้ไปก่อนเขา บ่อยครั้งเหลือเกินที่บางคนอาจ[เป็นคนดี]ไร้ที่ติในทางศีลธรรม แต่กลับเสี่ยงที่จะกลายเป็นคนถือดีและหยิ่งจองหองในสายตาของผู้คนที่รู้จักเขา พระวรสารได้เตือนเราอย่างถูกต้องให้ระวังอันตรายเช่นนี้ พระเยซูเจ้าทรงสอนบรรดาศิษย์ว่า “ท่านทั้งหลายก็เช่นเดียวกัน เมื่อท่านได้ทำตามคำสั่งทุกประการแล้ว จงพูดว่า ‘ฉันเป็นผู้รับใช้ที่ไร้ประโยชน์ เพราะฉันทำตามหน้าที่ที่ต้องทำเท่านั้น’” (ลก. 17,10) ความอวดดีถือดีเป็นยาพิษอย่างหนึ่ง เป็นยาพิษที่รุนแรงด้วย ยาพิษอันนี้เพียงหยดเดียวอาจทำลาย[ชีวิตของคนได้]ทั้งชีวิต ถึงแม้ว่าในชีวิตนั้น[เขาอาจจะได้ทำความดีมากมายก็ตาม] คนหนึ่งอาจทำความดีได้มากมายเป็นภูเขาเลากา อาจเคยได้รับรางวัลและการชื่นชมยกย่องมากมาย แต่ถ้าเขาทำสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อตัวเองเท่านั้น คือเพื่อยกตนเองให้สูงขึ้น เขาจะเรียกตัวเองได้อย่างไรว่าเป็นคนมีคุณธรรม ไม่ [เขาย่อมทำเช่นนั้นไม่ได้เลย]
ความดีไม่ได้เป็นเพียงเป้าหมายเท่านั้น หากแต่ยังเป็นวิธีการด้วย [การทำความดี]ต้องอาศัยการแยกแยะอย่างระมัดระวังอย่างมาก ต้องอาศัยความมีน้ำใจดีอย่างมาก และเหนือสิ่งอื่นใด [เราจำเป็นที่จะ]ต้องให้ความดีได้หลุดพ้นจากอัตตาของเราเอง ซึ่งบางครั้งอัตตาของเราอาจนำมาซึ่งภาระยากลำบากเหลือเกิน เมื่อใดก็ตามที่ “ตัวกู” เป็นศูนย์กลาง ทุกสิ่งทุกอย่างก็ย่อมจะย่ำแย่เสียหายไปหมด หากเราทำทุกอย่างในชีวิตเพื่อตัวเราเองเท่านั้น ลูกคิดหรือว่าแรงจูงใจแบบนี้เป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ เพราะ “ตัวกู” ที่น่าสงสารย่อมจะถือเอาทุกสิ่งทุกอย่างไป เกิดเป็นการอวดดีถือดีขึ้น
การแก้ไขสถานการณ์เหล่านี้ให้ถูกต้องสมควร บางครั้งอาจเป็นเรื่องเจ็บปวด แต่คุณธรรมทางเทววิทยาย่อมจะช่วยเหลือพวกเราได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ประสบความล้มเหลว เหตุว่าแม้แต่คนที่มีเจตนาดีสอดคล้องกับคุณธรรม บางครั้งก็อาจล้มเหลวได้ คนเราทุกคนต่างมีบางครั้งที่ล้มเหลวในชีวิต เพราะว่าพวกเราล้วนเป็นคนบาป เราทุกคนย่อมทำเรื่องผิดพลาดกันบ้างในชีวิต แม้แต่คนที่พยายามนำคุณธรรมไปปฏิบัติในชีวิตแต่ละวัน บางครั้งเขาก็ทำเรื่องผิดพลาดได้ เพราะว่าปัญญา[ของมนุษย์]อาจไม่แจ่มแจ้งเสมอไป เจตนาของเขาอาจไม่มั่นคงเสมอไป บางครั้งอารมณ์อาจไม่สามารถควบคุมได้เสมอไป ความกล้าหาญอาจไม่สามารถเอาชนะความกลัวได้เสมอไป แต่ถ้าเราเปิดใจให้แก่พระจิตเจ้า ผู้ทรงเป็นนาย เป็นปรมาจารย์แห่งชีวิตภายใน พระจิตเจ้าย่อมจะทรงฟื้นฟูคุณธรรมทางเทววิทยาให้กลับมีขึ้นภายในเรา ถ้าเราสูญเสียความมั่นใจ พระเจ้าก็จะทำให้เรากลับมีความเชื่ออีกครั้ง หากเราหมดหวังท้อแท้ใจ พระเจ้าก็จะปลุกความหวังขึ้นในเราอีกครั้ง และหากจิตใจเราแข็งกระด้าง พระองค์ก็จะทำให้จิตใจของเราลดความกระด้างได้ด้วยความรักของพระองค์ ขอขอบใจ
พระดำรัสทักทายพิเศษของสมเด็จพระสันตะปาปา
พ่อขอต้อนรับอย่างอบอุ่นต่อผู้แสวงบุญและผู้มาเยือนที่พูดภาษาอังกฤษซึ่งได้มาหาพ่อในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มจากอังกฤษ ฟินแลนด์ อินเดีย อินโดนีเซีย แทนซาเนีย และสหรัฐอเมริกา ในความปิติยินดีของพระคริสตเจ้าผู้ทรงกลับคืนพระชนม์ พ่อขอให้ลูกทุกคน ตลอดจนครอบครัวของลูก ได้รับพระเมตตาอันเปี่ยมด้วยความรักจากพระเจ้า ผู้ทรงเป็นบิดาของเราทั้งหลาย ขอให้องค์พระผู้เป็นเจ้าโปรดประทานพรแก่ลูกทุกคน
ท้ายสุด พ่อขอส่งความคิดคำนึงไปยังบรรดาเยาวชน คนป่วย คนชรา และคนที่เพิ่งแต่งงาน พิธีกรรมของวันพรุ่งนี้เป็นการฉลองนักบุญมาระโกผู้นิพนธ์พระวรสาร ผู้ซึ่งได้บรรยายอย่างชัดเจนเห็นภาพและมีชีวิตชีวาเกี่ยวกับพระธรรมล้ำลึกของพระบุคคลแห่งพระเยซูแห่งนาซาเร็ธ พ่อขอเชิญชวนให้ทุกคนเปิดใจ ให้มีความอัศจรรย์ใจในพระคริสตเจ้า และให้ร่วมมืออย่างกระตือรือร้นและซื่อสัตย์ในการสร้างพระอาณาจักรแห่งพระเจ้า
นอกจากนี้ [ขอให้เราทั้งหลาย]คิดถึงยูเครน ปาเลสไตน์ อิสราเอล เมียนมา และประเทศอื่น ๆ อีกมากมายที่กำลังมีสงครามและประสบกับความทุกข์ทรมาน สงครามย่อมเป็นความพ่ายแพ้เสมอ คนที่ได้ประโยชน์มากที่สุดคือบรรดาผู้ผลิตอาวุธ พ่อขอร้องให้ทุกคนภาวนาเพื่อสันติภาพ ให้เราภาวนาเพื่อยูเครนที่กำลังถูกทำร้าย ยูเครนกำลังทุกข์ทรมานมากเหลือเกิน มีทหารวัยหนุ่มสาวต้องออกไปตาย… ขอให้เราภาวนา และให้เราภาวนาเพื่อภูมิภาคตะวันออกกลาง เพื่อกาซาด้วย มีคนต้องทนทุกข์ทรมานอย่างมากมายท่ามกลางสงครามที่นั่น [ขอให้เราภาวนา]เพื่อสันติภาพระหว่างปาเลสไตน์และอิสราเอล เพื่อที่จะได้มีรัฐสองรัฐที่มีเสรีภาพและมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ขอให้เราทั้งหลายจงภาวนาเพื่อสันติภาพ
พ่อขออวยพรลูกทุกคน
ใจความสรุปพระดำรัสของสมเด็จพระสันตะปาปา
พี่น้องที่รัก ในการเรียนคำสอนต่อเนื่องเรื่องคุณธรรมประการต่าง ๆ ซึ่งเราได้พิจารณาเกี่ยวกับคุณธรรมหลักไปแล้วนั้น ในวันนี้ เราจะหันไปพิจารณาเกี่ยวกับคุณธรรมทางเทววิทยา เราทั้งหลายได้เห็นแล้วว่า คุณธรรมหลักเป็นองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งสำหรับการมีชีวิตอย่างดี อย่างไรก็ตาม การมีชีวิตที่บริบูรณ์ในพระคริสตเจ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายถูกเรียกไป และเป็นเป้าหมายปลายทางของเรานั้น ย่อมจะทำได้ต่อเมื่อพระเจ้าโปรดประทานคุณธรรมแห่งความเชื่อ ความหวัง และความรัก ให้คุณธรรมเหล่านี้ซึมซาบภายในเรา [สามสิ่งนี้]ถูกเรียกว่าเป็นคุณธรรมทางเทววิทยา เหตุว่าคุณธรรมเหล่านี้ทำให้เราได้มีความสัมพันธ์ที่เป็นพลวัตกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นพระตรีเอกภาพ คุณธรรมเหล่านี้ย่อมเป็นสิ่งบันดาลชีวิต และก่อรูปแบบในการที่เรานำคุณธรรมประการอื่น ๆ ที่เหลือมาปฏิบัติ จึงนับว่า[คุณธรรมทางเทววิทยา]เป็นรากฐานของการมีชีวิตอย่างสอดคล้องกับศีลธรรมแบบคริสต์ศาสนา ซึ่งจะทำให้เราสมควรได้รับของประทานแห่งชีวิตนิรันดร (เทียบ คำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ข้อ 1813) ขอให้เราทั้งหลายจงเปิดใจอีกครั้งให้แก่พลังของพระจิตเจ้าในแต่ละวัน และให้เราจงวอนขอพระจิตเจ้า ให้พระองค์ฟื้นฟูความเชื่อของเราให้มีชีวิตชีวา ให้พระองค์ปลุกความหวังของเราอีกครั้ง และให้พระองค์ขจัดความแข็งกระด้างในจิตใจของเราด้วยความรักของพระองค์
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร
เก็บการสอนคำสอน General Audience ของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและเพื่อการไตร่ตรอง)