สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส
ANGELUS/ทูตสวรรค์แจ้งข่าว
ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร นครรัฐวาติกัน
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2024
เจริญพรมายังพี่น้องชายหญิงที่รัก สุขสันต์วันพระเจ้า
ในพระวรสารของพิธีกรรมวันนี้ (เทียบ มก. 13,24-32) พระเยซูเจ้าได้ตรัสถึงเรื่องทุกขเวทนาอันยิ่งใหญ่ “ดวงอาทิตย์จะมืดไป ดวงจันทร์จะไม่ทอแสง” (มก. 13,24) เวลาที่ต้องเผชิญกับความทรมานแบบนี้ หลายคนอาจคิดถึงการสิ้นโลก แต่พระเยซูเจ้าได้ทรงใช้โอกาสนี้เพื่อเสนอวิธีคิดตีความที่ต่างออกไป พระองค์ตรัสว่า “ฟ้าดินจะสูญสิ้นไป แต่วาจาของเราจะไม่สูญสิ้นไปเลย” (มก. 13,31)
ในตอนนี้ ให้เราพิจารณาเกี่ยวกับสิ่งที่จะสูญสิ้นไป และสิ่งที่จะดำรงอยู่
ก่อนอื่น ให้เราพิจารณาสิ่งที่จะสูญสิ้นไป ในสถานการณ์บางอย่างของชีวิต เมื่อเราเจอกับวิกฤติหรือความล้มเหลวบางอย่าง หรือเมื่อเรามองดูความทุกข์ทรมานรอบตัวเรา เช่น ความทุกข์ทรมานที่เกิดจากสงคราม ความรุนแรง หรือภัยธรรมชาติ เราอาจรู้สึกว่าทุกอย่างกำลังจะจบสิ้นลง แม้แต่สิ่งต่าง ๆ ที่สวยงามที่สุดก็จะดับสูญไป อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวิกฤติและความล้มเหลวจะเป็นเรื่องน่าเจ็บปวด แต่เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ เพราะว่าสิ่งเหล่านี้สอนให้เรารู้จักให้ความสำคัญต่อสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างที่เป็นจริง กล่าวคือ ไม่ให้เรายึดติดกับความเป็นจริงต่าง ๆ ในโลกนี้ เพราะว่าของเหล่านี้สักวันหนึ่งก็จะต้องสูญสิ้นไป ไม่มีใครห้ามได้
ในขณะเดียวกัน พระเยซูเจ้าก็ได้ตรัสถึงสิ่งที่จะดำรงอยู่ กล่าวคือ ถึงแม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไป แต่พระวาจาของพระองค์จะไม่สูญสิ้นไปเลย พระวาจาของพระเยซูเจ้าย่อมดำรงอยู่นิรันดร พระองค์ตรัสเช่นนี้เพื่อเชื้อเชิญให้เราทั้งหลายเชื่อมั่นวางใจในพระวรสาร ซึ่งในพระวรสารนั้นมีพระสัญญาแห่งความรอดและความเป็นนิรันดร ซึ่งหากเราทำเช่นนี้ เราก็จะไม่ต้องมีชีวิตอยู่ด้วยความกลัวตาย เพราะถึงแม้สักวันหนึ่งทุกสิ่งทุกอย่างจะสูญสิ้นไป แต่พระเยซูเจ้าย่อมทรงดำรงอยู่ และถึงแม้ว่าผู้คนและสิ่งต่าง ๆ ที่เคยอยู่กับเราภายในโลกนี้อาจสูญสิ้นไป แต่สักวันหนึ่ง เราทั้งหลายจะได้มีโอกาสพบกับผู้คนและสิ่งเหล่านี้ได้อีกครั้งภายในองค์พระเยซูคริสตเจ้า ดังนั้น เมื่อเราได้รับพระสัญญาแห่งการกลับคืนชีพอันนี้แล้ว ความเป็นจริงทุกอย่างก็จะได้รับความหมายอย่างใหม่ กล่าวคือ ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีวันดับสูญไป ตัวเราเองสักวันหนึ่งก็จะต้องตาย แต่เราจะไม่มีวันสูญเสียสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นที่รักของเรา และสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้สร้างขึ้นไว้ เพราะว่าความตายจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่
พี่น้องที่รัก ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ท่ามกลางความลำบาก พบกับวิกฤติ หรือต้องเผชิญความล้มเหลว แต่พระวรสารก็เชื้อเชิญให้เราทั้งหลายมองดูชีวิตและเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยความปีติยินดีต่อสิ่งที่จะยังคงดำรงอยู่ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะสูญเสียสิ่งที่สักวันหนึ่งจะดับสูญไป ขอให้พวกเราอย่าลืมว่า พระเจ้าทรงตระเตรียมอนาคตแห่งชีวิตและความปีติยินดีไว้ให้แก่เราทั้งหลาย
ดังนั้น ขอให้เราถามตัวเองว่า เรายึดติดอยู่กับสิ่งต่าง ๆ ทางโลก ซึ่งจะสูญสิ้นไปอย่างรวดเร็วสักวันหนึ่ง หรือว่าเรายึดมั่นอยู่กับพระวาจาขององค์พระผู้เป็นเจ้า ซึ่งดำรงอยู่และนำทางพวกเราไปสู่ความเป็นนิรันดร ขอให้พวกเราถามตนเองแบบนี้ เพราะการคิดเรื่องนี้ย่อมเป็นผลดีต่อพวกเราเอง
และขอให้เราทั้งหลายวิงวอนแม่พระ ผู้ที่ได้มอบตนทั้งครบด้วยความเชื่อมั่นวางใจในพระวาจาของพระเจ้า เพื่อที่ท่านจะได้เสนอวิงวอนเพื่อเราทั้งหลายด้วย
หลังการสวดบททูตสวรรค์แจ้งข่าว สมเด็จพระสันตะปาปาทรงมีพระดำรัส ดังนี้
พี่น้องชายหญิงที่รัก เมื่อวานนี้ที่ชกอเดอร์[ของแอลเบเนีย] ได้มีพิธีสถาปนามรณสักขีสองท่านเป็นบุญราศี ได้แก่ คุณพ่อลุยจี ปาลิก สังกัดคณะภราดาน้อย[ฟรานซิสกัน] และคุณพ่อกย็อน กาซูลี บาทหลวงสังกัดเขตปกครอง ซึ่งท่านทั้งสองเป็นเหยื่อของการเบียดเบียนในศตวรรษที่ 20 นอกจากนี้ ที่ไฟรบวร์คอิมไบรส์เกา[ของเยอรมนี] ได้มีพิธีสถาปนามรณสักขีเป็นบุญราศีอีกหนึ่งท่าน ได้แก่ คุณพ่อมักซ์ โยเซฟ เมตซ์เกอร์ ผู้ก่อตั้งคณะฆราวาสแห่งพระคริสตราชา ท่านถูกข่มเหง[และสังหาร]โดยระบอบนาซี ด้วยเหตุที่ท่านได้ดำเนินความมุ่งมั่นเพื่อสันติภาพด้วยความเชื่อทางศาสนา ในโอกาสนี้ ขอให้แบบอย่างของมรณสักขีทั้งสามท่านจงมอบความบรรเทาใจแก่คริสตชนจำนวนมากมายที่ถูกข่มเหงรังแกเพราะความเชื่อคริสตชนในทุกวันนี้ และขอให้พวกเราปรบมือเป็นเกียรติแก่บุญราศีใหม่ทุกท่านด้วย
วันนี้เป็นวันคนยากจนสากล ซึ่งปีนี้มีหัวข้อว่า “คำวอนขอของคนยากจนย่อมไปถึงพระกรรณของพระเจ้า” (เทียบ บสร. 21,5) พ่อขอขอบใจผู้คนทั้งหลายที่ได้ดำเนินความริเริ่มทั้งในเขตปกครองและชุมชนวัด เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้คนที่ด้อยโอกาสและตกทุกข์ได้ยาก และในวันนี้ ขอให้เราระลึกถึงบรรดาผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรด้วย ขอให้เราอธิษฐานภาวนาเพื่อพวกเขา เพื่อญาติพี่น้องของเขา และให้เราพยายามเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจราจรต่าง ๆ
พ่อขอถามคำถามอย่างหนึ่งที่ทุกคนนำไปถามตนเองได้ด้วย คือ เราได้เสียสละอะไรบางอย่างเพื่อมอบให้คนยากจนบ้างหรือไม่ เวลาที่เราให้ทาน เราจับมือเขาและมองตาเขาหรือไม่ พี่น้องชายหญิงที่รัก ขอให้เราอย่าลืมว่า คนยากจนไม่อาจรอได้
พรุ่งนี้เป็นวันที่พระศาสนจักรในอิตาลีกำหนดให้เป็นวันอธิษฐานภาวนาเพื่อเหยื่อการข่มเหง พ่อขอร่วมใจกับพระศาสนจักรในอิตาลีในการนี้ การข่มเหงทุกอย่างเป็นการหักหลังความไว้เนื้อเชื่อใจ เป็นการหักหลังชีวิต ขณะที่การอธิษฐานภาวนาก็เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะ “สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้เกิดขึ้นใหม่”
พ่ออยากถือโอกาสระลึกถึงบรรดาชาวประมง เนื่องในวันประมงโลกที่จะมาถึงในวันพฤหัสบดี[ที่ 21 นี้]ด้วย ขอให้แม่พระผู้เป็นดาราสมุทร โปรดคุ้มครองชาวประมงและครอบครัวของพวกเขา
พ่อขอทักทายลูกทุกคนในที่นี้อย่างอบอุ่น ทั้งชาวโรม และผู้แสวงบุญจากที่ต่าง ๆ พ่อขอทักทายเป็นพิเศษต่อกลุ่มสัตบุรุษจากปอนตาเดลกาดา[ของโปรตุเกส] และจากกรุงซาเกร็บ[ของโครเอเชีย] กลุ่มนักขับจากอารามนักบุญลอเรนซ์แห่งเอลเอสโกเรียล[ของสเปน] และประชาคมชาวเอกวาดอร์ในกรุงโรมที่กำลังฉลองแม่พระแห่งเอลกวินเช พ่อขอทักทายกลุ่มจากกีออจจาและกาออร์เล[ของอิตาลี] กลุ่มเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากโรเมโน[ทางตอนเหนือของอิตาลี] และกลุ่มนักขับจากชุมชนวัดในเนซโซ[ทางตอนเหนือของอิตาลี]
พี่น้องที่รัก ขอให้พวกเราภาวนาเพื่อสันติภาพ ทั้งในยูเครนที่ถูกทรมาน ทั้งในปาเลสไตน์ อิสราเอล เลบานอน เมียนมา และในซูดาน สงครามทำให้พวกเราสูญเสียความเป็นมนุษย์ ทั้งยังชักจูงให้พวกเรายอมรับสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นอาชญากรรมซึ่งไม่อาจยอมรับได้ ขอให้บรรดาผู้นำจงรับฟังเสียงของผู้คนที่กำลังร้องขอสันติภาพ
พ่อขอทักทายเยาวชนในขบวนการอิมมาโกลาตาด้วย พ่อขอให้ลูกทุกคนในที่นี้มีความสุขในวันอาทิตย์ ขอให้ลูกทุกคนอย่าลืมอธิษฐานภาวนาเพื่อพ่อ รับประทานอาหารกลางวันให้อร่อย แล้วพบกันใหม่
(วิษณุ ธัญญอนันต์ และวรินทร เติมอริยบุตร แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เก็บคำปราศรัย Angelus ของพระสันตะปาปามาแบ่งปันและเพื่อการไตร่ตรอง)